ตอบ:
อธิบายไว้ด้านล่างเป็น 6 ขั้นตอนของวิธีที่ดาวของมวลดวงอาทิตย์หนึ่งดวงก่อตัว
คำอธิบาย:
ขั้นที่ 1 - เมฆโมเลกุลขนาดยักษ์: ดาวฤกษ์เริ่มต้นชีวิตเหมือนก้อนเมฆก๊าซขนาดใหญ่ พื้นที่ที่มีความหนาแน่นสูงภายในก้อนเมฆนี้ควบแน่นเป็นก๊าซและฝุ่นขนาดใหญ่และหดตัวภายใต้แรงโน้มถ่วงของมันเอง
ขั้นตอนที่ 2 - Protostar: ภูมิภาคของสสารควบแน่นเริ่มร้อนขึ้นและเริ่มที่จะกลายเป็นโปรโตสตาร์ที่เปล่งประกาย ระยะนี้ใช้เวลาประมาณ 10 ล้านปี
ด่าน 3 - เวที Tauri: ดาวอายุน้อยเริ่มก่อตัวเป็นลมแรงดวงดาวซึ่งผลักก๊าซและโมเลกุลรอบตัวออกไป สิ่งนี้จะช่วยให้ดาวที่กำลังก่อตัวมองเห็นได้
ขั้นตอนที่ 4 - นิวเคลียร์ฟิวชั่น: ถ้าโปรโตสตาร์มีสสารเพียงพออุณหภูมิกลางถึง 15 ล้านองศาเคที่อุณหภูมินี้ปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่ไฮโดรเจนหลอมรวมเป็นฮีเลียมสามารถเริ่มต้นได้
ขั้นตอนที่ 5 และ 6 - ดาวฤกษ์ในแถบลำดับหลัก: ดาวฤกษ์อายุน้อยถึงสมดุลอุทกสถิตซึ่งการบีบอัดแรงโน้มถ่วงของมันนั้นมีความสมดุลจากแรงดันภายนอกทำให้มันมีรูปร่างที่เป็นของแข็ง ดาวเริ่มปลดปล่อยพลังงานหยุดมันจากการเกร็งมากขึ้นและทำให้มันเปล่งประกาย ดาวฤกษ์ใช้เวลา 90 เปอร์เซ็นต์ของชีวิตในช่วงลำดับหลักนี้โดยหลอมไฮโดรเจนให้กลายเป็นฮีเลียมในแกนกลาง
ความแปรปรวนของข้อมูลต่อไปนี้คืออะไร 2 4 5 7 กรุณาแสดงการทำงาน [ขั้นตอน]
Color (red) (sigma ^ 2 = 3.25) เพื่อค้นหาความแปรปรวนก่อนอื่นเราต้องคำนวณค่าเฉลี่ย ในการคำนวณค่าเฉลี่ยเพียงเพิ่มจุดข้อมูลทั้งหมดแล้วหารด้วยจำนวนจุดข้อมูล สูตรสำหรับค่าเฉลี่ยของ mu คือ mu = (sum_ (k = 1) ^ nx_k) / n = (x_1 + x_2 + x_3 + cdots + x_n) / n โดยที่ x_k คือจุดข้อมูล kth และ n คือจำนวนของข้อมูล จุด สำหรับชุดข้อมูลของเราเรามี: n = 4 {x_1, x_2, x_3, x_4} = {2, 4, 5, 7} ดังนั้นค่าเฉลี่ยคือ mu = (2 + 4 + 5 + 7) / 4 = 18 / 4 = 9/2 = 4.5 ทีนี้เพื่อคำนวณความแปรปรวนเราหาว่าจุดข้อมูลแต่ละจุดนั้นอยู่ห่างจากค่าเฉลี่ยแล้วนำค่าแต่ละค่าเหล่านั้นมารวมกันเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสเพิ่มขึ้นและหารด้วยจำนวนจุดข้อมูล ความแปรปรวนจะได้รับสัญ