เมื่อใช้วิธี FOIL (4x + 3) (x + 2) คืออะไร

เมื่อใช้วิธี FOIL (4x + 3) (x + 2) คืออะไร
Anonim

ตอบ:

# (4x + 3) (x + 2) = 4x ^ 2 + 11x + 6 #

คำอธิบาย:

FOIL ย่อมาจาก First, Outside, Inside, Last เพื่อระบุชุดคำศัพท์ที่หลากหลายจากปัจจัยทวินามแต่ละตัวที่จะคูณกันแล้วเพิ่ม:

# (4x + 3) (x + 2) = overbrace ((4x * x)) ^ "First" + overbrace ((4x * 2)) ^ "Outside" + overbrace ((3 * x)) ^ "Inside" + overbrace ((3 * 2)) ^ "Last" #

# = 4x ^ 2 + 8x + 3x + 6 #

# = 4x ^ 2 + 11x + 6 #

หากเราไม่ได้ใช้ FOIL เราอาจทำการคำนวณโดยแยกปัจจัยแต่ละอย่างออกมาโดยใช้การกระจาย:

# (4x + 3) (x + 2) = 4x (x + 2) +3 (x + 2) #

# = (4x * x) + (4x * 2) + (3 * x) + (3 * 2) #

# = 4x ^ 2 + 8x + 3x + 6 #

# = 4x ^ 2 + 11x + 6 #

ดังนั้นสำหรับทวินาม FOIL ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงขั้นตอนเดียว

ข้อเสียเปรียบหลักของ FOIL ก็คือมันถูก จำกัด ไว้ที่ทวินาม

ตอบ:

# (4x + 3) (x + 2) = 4x ^ 2 + 11x + 6 #

คำอธิบาย:

ตัวอักษร FOIL ในวิธี FOIL หมายถึง First, Outer, Inner, Last และใช้ในการคูณสอง binomials

ที่นี่เรากำลังทวีคูณ # (4x + 3) # และ # (x + 2) #.

ซึ่งหมายความว่าก่อนอื่นให้คูณข้อกำหนดที่เกิดขึ้นเป็นลำดับแรกในแต่ละชื่อทวินามนั่นคือ # 4x # และ # x # ในตัวอย่างด้านบน ด้านนอกหมายถึงการคูณข้อกำหนดด้านนอกสุดในผลิตภัณฑ์เช่น # 4x # และ #2#.

Inner หมายถึงการคูณคำในสุดสองคำนั่นคือ #3# และ # x # และสุดท้ายคูณเงื่อนไขที่เกิดขึ้นล่าสุดในแต่ละทวินามคือกล่าวว่า #3# และ #2#.

ด้วยเหตุนี้ # (4x + 3) (x + 2) = 4x xx x + 4x xx 2 + 3 xx x + 3 xx2 #

= # 4x ^ 2 + 8x + 3x + 6 #

= # 4x ^ 2 + 11x + 6 #