พีชคณิต

มันคือ 3 + sqrt2 โดยนิยามคอนจูเกตของสี (สีขาว) ("XXX") (a + b) คือ (ab) และสี (สีขาว) ("XXX") (ab) คือ (a + b) คำว่า " ผัน "ใช้กับผลรวมหรือความแตกต่างของสองคำเท่านั้น "3 ลบสแควร์รูทของ 2" หมายถึง (ในรูปแบบพีชคณิต) 3-sqrt (2) การใช้คำจำกัดความก่อนหน้าด้วย = 3 และ b = sqrt (2) เรามีคอนจูเกตของ (3-sqrt (2)) คือ (3 + sqrt (2)) อ่านเพิ่มเติม »

คอนจูเกตของ 5 คือ 5 เมื่อจัดการกับจำนวนอตรรกยะในรูปของ + sqrtb คอนจูเกตคือ a-sqrtb เมื่อจัดการกับจำนวนจินตภาพในรูปแบบของ + bi ดังนั้นคอนจูเกตคือ a-bi ไม่ว่าคุณจะแสดง 5 เป็นจำนวนอตรรกยะ (5 + sqrt0) หรือเป็นจำนวนจินตภาพ (5 + 0i) แล้วคอนจูเกตจะเท่ากับ 5 ทั้งทาง (5-sqrt0 และ 5-0i) ดังนั้นคอนจูเกตของ 5 คือ 5 อ่านเพิ่มเติม »

การแปรผันตรงถ้า y เป็นสัดส่วนโดยตรงกับ x เราสามารถเขียน y = kx โดยที่ k คือค่าคงที่ของสัดส่วน หากคุณแก้หา k เรามี k = y / x ซึ่งเป็นอัตราส่วนของ y ต่อ x ดังนั้นค่าคงที่ของสัดส่วนคืออัตราส่วนระหว่างสองปริมาณที่ได้สัดส่วนโดยตรง ความแปรปรวนผกผันถ้า y แปรผกผันกับ x แล้วเราสามารถเขียน y = k / x โดยที่ k คือค่าคงที่ของสัดส่วน ถ้าคุณแก้หา k เรามี k = xy ซึ่งเป็นผลคูณของ x และ y ดังนั้นค่าคงที่ของสัดส่วนคือผลผลิตของปริมาณที่แปรผกผัน ฉันหวังว่านี่จะเป็นประโยชน์ อ่านเพิ่มเติม »

"จุดยอด" = (-5, -4) x = -b / (2a) x = -10 / (2 (1)) x = -5 Sub -5 เข้าสู่สมการ y = (- 5) ^ 2 + 10 (-5) + 21 y = -4 สูตร -b / (2a) ใช้เพื่อค้นหาแกนสมมาตรซึ่งเป็นค่า x ของจุดยอดเสมอ เมื่อคุณพบค่า x ของจุดยอดคุณเพียงแทนที่ค่านั้นลงในสมการกำลังสองและหาค่า y ซึ่งในกรณีนี้คือจุดยอด อ่านเพิ่มเติม »

K = -3 / 5 y = kx "หมายถึงรูปแบบโดยตรง" "จัดเรียงใหม่" 3x + 5y = 0 "ในรูปแบบนี้" "ลบ 3x จากทั้งสองด้าน" ยกเลิก (3x) ยกเลิก (-3x) ยกเลิก (-3x) + 5y = 0-3x rArr5y = -3x "หารทั้งสองข้างด้วย 5" (ยกเลิก (5) y) / ยกเลิก (5) = - 3 / 5x rArry = -3 / 5xlarrcolor (สีแดง) "รูปแบบโดยตรง" rArrk = -3 / 5 อ่านเพิ่มเติม »

ถ้าเราใช้ "ถูกต้อง" เพื่อหมายถึงความถูกต้องทางวิทยาศาสตร์แล้วมันจะเป็น 0.66 ในทางวิทยาศาสตร์เราไม่สามารถอ้างสิทธิ์ความรู้เกี่ยวกับข้อมูลมากกว่าที่ได้รับ ดังนั้นแม้ว่าเราจะรู้หนึ่งในตัวเลขทั้งห้าหลักและหลักแสนก็ไม่สามารถทำให้เกิดความไม่ถูกต้องของเลขสองหลักเดี่ยว 36 ที่ 6.77 อยู่ระหว่างเช่นกัน นิพจน์อาจถูกประเมินในลำดับใด ๆ เนื่องจากเป็นเพียงการรวมกันของการคูณและการหาร ปัจจัย จำกัด ในคำตอบ "เครื่องคิดเลข" สุดท้ายของ 0.656454948 คือค่าสองค่าที่รู้จักกันในค่าดั้งเดิม 36 ดังนั้นคำตอบสุดท้ายอาจมีตัวเลขที่สำคัญสองอย่างถูกต้องเท่านั้น ด้วยค่า "ไม่แน่นอน" ในตำแหน่งที่หนึ่งพัน (6) (นอกเหนือจากความแม่นยำ อ่านเพิ่มเติม »

Trinomial ทั่วไป A trinomial เป็นสมการที่มีสามคำที่เกี่ยวข้องกับสัญลักษณ์ตัวอย่างคือ; ax ^ 2 + bx + c หรือ axe ^ 2 + bx - c ซึ่งตอบสนองสมการที่กำหนด x ^ 2 + 7x + 10 อ่านเพิ่มเติม »

Y = A (1-r) ^ t คือการสลายตัวแบบเอ็กซ์โพเนนเชียลและ y = A (1 + r) ^ t คือการเติบโตแบบเอ็กซ์โพเนนเชียล มันขึ้นอยู่กับบริบทอย่างมาก เพื่อให้มีความหมายฉันถือว่า y เป็นฟังก์ชันของ t และ A, r คือค่าคงที่บางค่าที่ 0 <r <1 เมื่อคุณอธิบายจำนวนที่มากกว่า 1 คุณจะได้รับการเติบโตแบบเลขชี้กำลังและเมื่อจำนวนน้อยกว่า 1 คุณจะได้รับการสลายตัว นั่นเป็นสาเหตุที่ส่วน r> 0 มีความสำคัญ ถ้า r <0 คำตอบจะเปลี่ยน ถ้า r = 0 คุณจะได้รับฟังก์ชั่นคงที่ที่เก่าและน่าเบื่อ ถ้า r> 1 ดังนั้น 1-r <0 และเมื่อคุณแจกแจงลบจำนวนลบสิ่งเลวร้ายจะเกิดขึ้น (ถ้าคุณไม่ทราบจำนวนเชิงซ้อน) การยกกำลัง 0 เป็นเพียงครึ่งเดียว คุณได้ 0 เป็นค่าบวก t, และทุกอย่า อ่านเพิ่มเติม »

-6 - (-5) = -6 + 5 = -1 เครื่องหมายลบนอกเครื่องหมายวงเล็บแสดงถึงลบหนึ่ง เมื่อคุณลบวงเล็บคุณต้องคูณทุกอย่างภายในด้วยลบ นี่มีผลกระทบเพียงแค่เปลี่ยนสัญญาณดังนั้นลบห้ากลายเป็นบวกห้า อ่านเพิ่มเติม »

X = 5/2 หรือ 1 เริ่มต้นด้วยการทำให้สมการของคุณง่ายขึ้นโดยแยก 3: 3 (2x ^ 2-7x + 5) = 0 2x ^ 2-7x + 5 = 0 สมการนี้ไม่สามารถรวมกับจำนวนทั้งหมดได้ดังนั้นคุณ ควรใช้สูตรสมการกำลังสอง: (-b + -sqrt (b ^ 2-4ac)) / (2a) โดยรู้ว่า ax ^ 2 + bx + c ดังนั้นตอนนี้: (- (- 7) + - sqrt ((- 7) ^ 2-4 (2) (5))) / (2 (2)) (7 + -sqrt (49-4 (2) (5))) / (4) (7 + -sqrt (49-40) ) / (4) (7 + -sqrt (9)) / (4) (7 + -3) / (4) 10/4 หรือ 4/4 = 5/2 หรือ 1 x = 5/2 หรือ 1 อ่านเพิ่มเติม »

คำตอบคือตัวเลือก 3) 1 แต่คำอธิบายนั้นไม่สามารถสรุปได้ รับ: รากอัลฟาและเบต้าของ x ^ 2-p (x + 1) -c = 0 ใช้คุณสมบัติการกระจายและทำเครื่องหมายเป็นสมการ [1]: x ^ 2-px-pc = 0 "[1]" เพราะอัลฟ่าและ รากเบต้าของสมการกำลังสองต่อไปนี้เป็นจริงเช่นกัน: (x - alpha) (x - beta) = 0 ทำการคูณ: x ^ 2 -betax - alphax + alpha รวมคำและเครื่องหมายเป็นสมการ [2]: x ^ 2 - (อัลฟา + เบต้า) x + ตัวอักษร "[2]" จับคู่สัมประสิทธิ์ของเทอมกลางในสมการ [1] กับคำเดียวกันในสมการ [2]: p = อัลฟ่า + เบต้า "[3]" จับคู่ค่าคงที่ของ สมการ [1] กับระยะเวลาคงที่ของสมการ [2]: -pc = ตัวอักษรแก้ปัญหาสำหรับ c: c = -alphabeta-p "[4]" ส อ่านเพิ่มเติม »

98 คือคำตอบที่ถูกต้องให้ไว้: 4x ^ 3-7x ^ 2 + 1 = 0 หารด้วย 4 เราพบ: x ^ 3-7 / 4x ^ 2 +0x + 1/4 = (x-alpha) (x-beta) (x-gamma) = x ^ 3- (อัลฟา + เบต้า + แกมม่า) x ^ 2 + (อัลฟ่า + เบทากามา + แกมม่าอัลฟา) x-alphabetagamma ดังนั้น: {(อัลฟ่า + เบต้า + แกมม่า = 7/4), (อัลฟา + เบต้าแกมมา = 0) , (alphabetagamma = -1/4):} ดังนั้น: 49/16 = (7/4) ^ 2-2 (0) สี (สีขาว) (49/16) = (อัลฟา + เบต้า + แกมม่า) ^ 2-2 (alpha + betagamma + gammaalpha) สี (ขาว) (49/16) = alpha ^ 2 + beta ^ 2 + gamma ^ 2 และ: 7/8 = 0 - 2 (-1/4) (7/4) (( สีขาว) (7/8) = (ตัวอักษร + betagamma + gammaalpha) ^ 2-2alphabetagamma (อัลฟ่า + เบต้า + แกมม่า) สี (สีขาว) (7/ อ่านเพิ่มเติม »

(32a ^ 10b ^ (5/2)) ^ (2/5) = 4a ^ 4b ก่อนอื่นเขียน 32 ใหม่เป็น 2xx2xx2xx2xx2 = 2 ^ 5: (32a ^ 10b ^ (5/2)) ^ (2/5) = (2 ^ 5a ^ 10b ^ (5/2)) ^ (2/5) เลขชี้กำลังสามารถแยกย่อยได้โดยการคูณนั่นคือ (ab) ^ c = a ^ c * b ^ c สิ่งนี้เป็นจริงสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีสามส่วนเช่น (abc) ^ d = a ^ d * b ^ d * c ^ d ดังนั้น: (2 ^ 5a ^ 10b ^ (5/2)) ^ (2/5) = (2 ^ 5) ^ (2/5) * (a ^ 10) ^ (2/5) * (b ^ ( 5/2)) ^ (2/5) แต่ละรายการสามารถทำให้ง่ายขึ้นโดยใช้กฎ (a ^ b) ^ c = a ^ (bc) (2 ^ 5) ^ (2/5) * (a ^ 10) ^ (2/5) * (b ^ (5/2)) ^ (2/5) = 2 ^ (5xx2 / 5) * a ^ (10xx2 / 5) * b ^ (5 / 2xx2 / 5) สี (สีขาว) ((2 ^ 5) ^ (2/5) * (a ^ 10) ^ (2/5) * (b ^ (5 อ่านเพิ่มเติม »

ดูคำอธิบาย ... 59/1000 สามารถเขียนได้อย่างถูกต้องในรูปแบบใด ๆ ต่อไปนี้: 59/1000 เป็นตัวแทนที่ดีอย่างสมบูรณ์ที่เน้นสถานะของตัวเลขนี้เป็นจำนวนตรรกยะ 5.9 xx 10 ^ (- 2) เป็นรูปแบบที่ถูกต้องในรูปแบบทางวิทยาศาสตร์ 59 xx 10 ^ (- 3) เป็นรูปแบบที่ถูกต้องในสัญกรณ์วิศวกรรมตัวแปรของสัญกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้พลังของ 10 ที่เป็นพหุคูณของ 3 0.059 เป็นตัวแทนทศนิยมทศนิยมมาตรฐาน 0.058999 ... = 0.058bar (9) ถูกต้องเช่นกัน แต่โดยทั่วไปไม่ต้องการ อ่านเพิ่มเติม »

1 / (a ^ 2) เมื่อใดก็ตามที่มีค่าลบในเลขชี้กำลัง ... มันหมายถึง .... ผกผันมัน 2 ^ (- 2) = 2 ^ (- 2) / 1 = 1 / (2 ^ 2) มัน ถูกนำมาใช้เช่นนั้นเพราะคุณสามารถใช้เป็นสัดส่วนผกผันขนาดใหญ่หรืออะไรก็ได้ ... 10 ^ 2 = 10xx10 10 ^ 1 = 10 10 ^ 0 = 10/10 = 1 10 ^ -1 = 10/100 = 1 / 10 คุณเห็นหรือไม่ .... หวังว่าคุณจะเข้าใจมันได้ดี อ่านเพิ่มเติม »

ว่ากันว่า - "ราคาหุ้นและราคาพันธบัตรควรเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน" ผู้ค้าส่วนใหญ่เชื่อว่าพันธบัตรเป็นตัวแทนโดยตรงสำหรับหุ้นและใช้เป็นเที่ยวบินเพื่อความปลอดภัยในเวลาที่เกิดปัญหานี่เป็นความจริงบางส่วน ช่วงเวลาของวิกฤตพันธบัตรยืนหยัดเพื่อการลงทุนที่ปลอดภัยกว่าตราสารทุนราคาพันธบัตรเกี่ยวข้องกับผลตอบแทนดอกเบี้ยหากอัตราโดยทั่วไปสูงขึ้นผู้ที่ขายพันธบัตรในตลาดรองจะต้องลดราคาลงเพื่อให้ อัตราผลตอบแทนโดยรวมของพันธบัตรเทียบได้กับข้อเสนอใหม่ที่มีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าหากอัตราดอกเบี้ยในตลาดลดลงผู้ใช้สามารถขายพันธบัตรของตนเพื่อรับเงินได้มากขึ้นหากมีอัตราที่สูงกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน เป็นภาระที่มากขึ้นในงบดุลของพวกเขาและทำให้กำ อ่านเพิ่มเติม »

ค่าใช้จ่ายของคอมพิวเตอร์หลังจากได้รับส่วนลด 30% คือ 1,102.50 สูตรการคำนวณเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงในสองค่าคือ: p = (N - O) / O * 100 โดยที่ p คือการเปลี่ยนแปลงเปอร์เซ็นต์ N คือค่าใหม่และ O คือค่าเก่า รับข้อมูลที่ให้ไว้เราสามารถเขียนสูตรและแก้ปัญหาสำหรับ N ดังนี้: -30 = (N - 1575) / 1575 * 100 1575/100 * -30 = (N - 1575) / 1575 * 100 (1575/100) - 47250/100 = N - 1575 -472.50 + 1575 = N - 1575 + 1575 1102.50 = N อ่านเพิ่มเติม »

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะอยู่ที่ $ 38.52 "ภาษีการขาย 7%" บอกเราว่าจะมีการบวก 7% ของต้นทุนของสินค้า ดังนั้นภาษีจะเป็น 7% ของ $ 36 (โปรดจำไว้ว่า 7% = 7/100 = 0.07) "7% จาก 36" = 0.07 xx $ 36 = $ 2.52 $ 2.52 จะถูกเพิ่มเป็น $ 36.00 เพื่อให้ต้นทุนรวม $ 2.52 + $ 36.52 ค่าใช้จ่ายสุดท้ายจะเป็น $ 38.52 ในกรณีทั่วไปมากขึ้นสมการต่อไปนี้สามารถเขียนเพื่อหาค่าใช้จ่ายทั้งหมด: "ต้นทุน" + (% "ภาษี" xx "ต้นทุน") = "ต้นทุนทั้งหมด" หรือ "ต้นทุน" + (0.07 xx "cost") = "ต้นทุนรวม" ซึ่งสามารถทำให้เป็น (1 + 0.07) xx "cost" = "ต้นทุนรวม" หรือ 1.0 อ่านเพิ่มเติม »

ดูกระบวนการแก้ปัญหาด้านล่าง: เราสามารถเขียนสูตรสำหรับปัญหานี้ได้ที่: t = c + (s * c) โดยที่: t คือต้นทุนรวมของรายการหลังจากหักภาษีแล้ว สิ่งที่เรากำลังแก้ไขในปัญหานี้ c คือต้นทุนเดิมของรายการก่อนหักภาษี: $ 17.50 สำหรับปัญหานี้ s คืออัตราภาษีขาย: 7% สำหรับปัญหานี้ "Percent" หรือ "%" หมายถึง "out of 100" หรือ "per 100" ดังนั้น 7% สามารถเขียนเป็น 7/100 การแทนที่และการคำนวณ t ให้: t = $ 17.50 + (7/100 * $ 17.50) t = $ 17.50 + ($ 122.50 / 100) t = $ 17.50 + $ 1.23 ปัดเศษเป็นเงินที่ใกล้ที่สุด * t = $ 18.73 สุดท้ายค่าใช้จ่ายทั้งหมดของรายการ $ 18.73 อ่านเพิ่มเติม »

สมมติว่าราคาที่กำหนดอยู่ก่อนหักภาษี "" -> "ราคาสุดท้าย =" $ 133.01 สมมติว่าราคาที่กำหนดคือหลังหักภาษี "" -> "ต้นทุนเดิม =" $ 122.12 สมมติฐาน: $ 127.89 เป็นราคาก่อนภาษี เปอร์เซ็นต์เป็นอีกวิธีการเขียนเศษส่วน ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือหมายเลขด้านล่าง (ตัวหาร) ได้รับการแก้ไขที่ 100 มีวิธีการเขียนเปอร์เซ็นต์เศษส่วนสองวิธี: "" 4/100 ตัวย่อวิธี: "" 4% ถ้าคุณเขียนเศษส่วนเช่นนี้: 100/100 หมายความว่าคุณมีทุกสิ่ง นี่เป็นเพราะ 100/100 = 1 -> 1 "ของบางอย่าง" '~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ~~~ สี (สีน้ำเงิน) ("การแก้ไขคำถามของคุณก่ อ่านเพิ่มเติม »

ดูกระบวนการแก้ปัญหาด้านล่าง: อันดับแรกเราสามารถเขียนความสัมพันธ์เป็น: 1 "ตั๋ว" = $ 8.50 ตอนนี้เราสามารถสร้างสมการแต่ละด้านด้วยสี (แดง) (12) เพื่อหาค่าตั๋วเดินทางเที่ยวเดียว 12 ใบ: สี (แดง) (12) xx 1 "ตั๋ว" = สี (แดง) (12) xx $ 8.50 สี (แดง) (12) "ตั๋ว" = $ 102.00 12 การเดินทางทางเดียวราคา $ 102.00 อ่านเพิ่มเติม »

ใช้สมการที่สองเพื่อให้การแสดงออกของ y ในแง่ของ x เพื่อแทนที่เป็นสมการแรกเพื่อให้สมการกำลังสองใน x เพิ่ม x ลงในทั้งสองข้างของสมการที่สองเพื่อรับ: y = x + 3 จากนั้นแทนที่นิพจน์นี้เป็น y เพื่อให้ได้สมการแรก: 29 = x ^ 2 + (x + 3) ^ 2 = 2x ^ 2 + 6x +9 ลบ 29 จากปลายทั้งสองเพื่อรับ: 0 = 2x ^ 2 + 6x-20 หารทั้งสองข้างด้วย 2 เพื่อรับ: 0 = x ^ 2 + 3x-10 = (x + 5) (x-2) ดังนั้น x = 2 หรือ x = -5 ถ้า x = 2 ดังนั้น y = x + 3 = 5 ถ้า x = -5 ดังนั้น y = x + 3 = -2 ดังนั้นทั้งสองวิธี (x, y) คือ (2, 5) และ ( -5, -2) อ่านเพิ่มเติม »

(3, 2) ไม่ใช่คำตอบของระบบสมการ คุณแทนสิ่งใหม่สำหรับสิ่งเก่าและคุณแทนที่สิ่งเก่าด้วยหรือโดยสิ่งใหม่ แทน 3 สำหรับ x และ 2 สำหรับ y และตรวจสอบว่าสมการทั้งสองถูกต้องหรือไม่ y = -x + 5 และ x-2y = -4 & x = 3, y = 2: คือ 3 -2 xx2 = -4 หรือไม่ คือ -1 = -4? ไม่มี !! สิ่งนี้เป็นจริง 2 = -3 + 5 หรือไม่ 2 = 2 มันเป็นความจริง (3,2) อยู่บนหนึ่งบรรทัด แต่ไม่ใช่ทั้งสองอย่างและมันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาของระบบสมการ http://www.desmos.com/calculator/hw8eotboqh อ่านเพิ่มเติม »

ดูคำตอบ discriminant (Delta) ได้มาจากสมการกำลังสอง: x = (b ^ 2 + - (sqrt (b ^ 2-4ac))) / (2a) โดยที่ Delta เป็นนิพจน์ที่อยู่ใต้เครื่องหมายรากดังนั้น: discriminant (Delta) = b ^ 2-4ac ถ้า Delta> 0 มี 2 วิธีแก้ปัญหาจริง (root) ถ้า Delta = 0 มี 1 วิธีแก้ไขซ้ำ (root) ถ้า 0> Delta แล้วสมการนั้นไม่มีวิธีแก้ปัญหาจริง (root) ใน กรณีนี้ b = -1, c = -6 และ a = 2 b ^ 2-4ac = (- 1) ^ 2-4 (2) (- 6) = 49 ดังนั้นสมการของคุณมีวิธีแก้ปัญหาจริงสองแบบคือ Delta> 0 การใช้สูตรสมการกำลังสองเหล่านี้กลายเป็น: x = (1 + - (sqrt49)) / (4) x_1 = 2 x_2 = (- 6/4) = - 1.5 อ่านเพิ่มเติม »

ความกว้าง = 160 ฟุตความยาว = 360 ฟุตเส้นรอบวงของสนามคือระยะทางทั้งหมดรอบ ๆ สี่เหลี่ยมผืนผ้าดังนั้นจึงได้มาจาก: (ความยาวคูณ 2) + (ความกว้างคูณ 2) เรารู้ว่าความยาว 200ft ยาวกว่าความกว้าง ดังนั้น: ((ความกว้าง + 200) คูณ 2) + (ความกว้างคูณ 2) = 1040, ขอบเขตทั้งหมด สิ่งนี้สามารถแสดงเป็น: 1040 = 2 (x + 200) +2 (x) โดยที่ x คือความกว้างของฟิลด์ แก้หา x: 1040 = 2x + 400 + 2x 640 = 4x x = 160 ดังนั้นความกว้างคือ 160 ฟุตเรารู้ว่าความยาว 200 ฟุตยาวกว่าเราเพิ่งเพิ่ม 200 เข้ากับความกว้าง: (160 + 200) = 360 ฟุต อ่านเพิ่มเติม »

คำตอบ: r = -6, 4 abs (7 + 7r) + 5 = 40 abs (7 + 7r) = 35 7 + 7r = + - 35 7 + 7r = + 35 => r = 28/7 = 4 7+ 7r = - 35 => r = -42/7 = -6 อ่านเพิ่มเติม »

กราฟ {1 / 4x + 5 [-20.84, 19.16, -0.32, 19.68]} ความชันคือ: 1/4 x- จุดตัดคือ: -20 จุดตัดแกน y: 5 ความลาดชันเป็นเพียงค่าสัมประสิทธิ์ด้านหน้า x term ie m, ใน y = mx + c y-intercept ถูกกำหนดโดย c เพื่อคำนวณชุด x-intercept y = 0 จากนั้นย้อนกลับการจับคู่เพื่อแก้หา x 0 = x / 4 + 5 -5 = x / 4 - 20 = x อ่านเพิ่มเติม »

เวกเตอร์ตั้งฉากกับทั้งคู่ ... ครอสโปรดัคของเวกเตอร์สองตัวในพื้นที่สามมิติเป็นเวกเตอร์มุมฉากที่สามสำหรับทั้งคู่และความยาวตามสัดส่วนกับผลคูณของความยาวของเวกเตอร์สองตัว เราเขียน cross product ของ vec (u) = <u_1, u_2, u_3> และ vec (v) = <v_1, v_2, v_3> เป็น: vec (u) xx vec (v) = <u_2v_3-u_3v_2, สี ( สีขาว) (.) u_3v_1-u_1v_2, สี (สีขาว) (.) u_1v_2-u_2v_1> หากมุมระหว่างเวกเตอร์ vec (u) และ vec (v) คือ theta เราจะพบว่า: abs (abs (vec (u) xx) vec (v)) = abs (abs (vec (u))) * abs (abs (vec (v))) สี (ขาว) (.) sin theta sin theta อีกวิธีหนึ่งในการเขียนผลิตภัณฑ์กากบาทคือ: (u_1hat (i ) + u_2hat (j) + u_3hat (k)) xx (v อ่านเพิ่มเติม »

Root (3) 8 = 2 รูทคิวบ์ของ x (แสดงโดย root (3) x) คือจำนวนที่คุณคูณด้วยตัวเองสามครั้งเพื่อรับ x ลูกบาศก์รูทของ 8 คือ 2 เนื่องจาก: 2 * 2 * 2 = 4 * 2 = สี (สีแดง) (8) คุณยังสามารถใช้เลขชี้กำลัง: 2 ^ 3 = 2 ^ 2 * 2 ^ 1 = 4 * 2 = สี (สีแดง) (8) อ่านเพิ่มเติม »

512 การลูกบาศก์ตัวเลขหมายถึงการคูณตัวเลขด้วยตัวเองสามครั้ง ในกรณีของคุณเรามี: 8 ^ 3 ในการหาค่าของ 8 cubed ให้กำหนดค่าของ 8xx8xx8: 8xx8xx8 = 64xx8 = สี (สีเขียว) (| บาร์ (ul (สี (สีขาว) (a / a)) สี (สีดำ ) (512) สี (สีขาว) (ก / ก) |))) อ่านเพิ่มเติม »

10 1,000 = 10xx10xx10 = 10 ^ 3 ในคำอื่น ๆ 10 cubed คือ 1000 ดังนั้น 10 คือรูทคิวบ์ของ 1000 จำนวนจริงใด ๆ มีรูทคิวบ์จริงหนึ่งตัว จำนวนจริงที่ไม่เป็นศูนย์ใด ๆ มีรูทคิวบ์สองตัวที่เป็นจำนวนเชิงซ้อน กราฟของ y = x ^ 3 มีลักษณะดังนี้: กราฟ {x ^ 3 [-10, 10, -5, 5]} สังเกตว่าเส้นแนวนอนใด ๆ จะตัดกันเส้นโค้งนี้ที่จุดหนึ่ง พิกัด x ของจุดตัดเป็นรากของคิวบ์จริงของพิกัด y กราฟของ y = root (3) (x) เกิดขึ้นจากการสะท้อนกราฟด้านบนในแนวเส้นทแยงมุม y = x (ดังนั้นการสลับ x และ y) และมีลักษณะดังนี้: กราฟ {root (3) (x) [-10 , 10, -5, 5]} อ่านเพิ่มเติม »

ตามคำนิยามลูกบาศก์รูทของตัวเลข x คือตัวเลข y ซึ่ง y ^ 3 = x นอกเหนือจากการใช้เครื่องคิดเลขแน่นอนคุณสามารถดูว่าตัวเลข n เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่สมบูรณ์แบบหรือไม่โดยแยกแฟคเตอร์เป็นจำนวนเฉพาะและหากจำนวนนั้นมีรูปแบบ n = p_1 ^ {d_1} times p_2 ^ {d_2} times ... times p_n ^ {d_n} แล้วมันคือคิวบ์ที่สมบูรณ์แบบถ้าและถ้าทุก d_i หารด้วย 3 แฟคตอริ่ง 128 ในจำนวนเฉพาะจะให้คุณ 128 = 2 ^ 7 ดังนั้นจึงไม่ใช่คิวบ์ที่สมบูรณ์แบบ ( นั่นคือคิวบ์รูทของมันไม่ใช่จำนวนเต็ม) อย่างไรก็ตามเราสามารถพูดได้ว่าลูกบาศก์รูทของ 128 คือ 128 ต่อกำลังของ 1/3 ดังนั้นเราจึงมี 128 ^ {1/3} = (2 ^ 7) ^ {1/3} = 2 ^ {7/3 } = 2 ^ {2 + 1/3} โดยใช้สูตร a ^ {b + c} = a ^ b อ่านเพิ่มเติม »

1/2 m = (y_1-y_2) / (x_1-x_2) หรือ (y_2-y_1) / (x_2-x_1) p_1 (-7,3) p_2 (3,8) m = (3-8) / ( -7-3) = (- 5) / (- 10) = 2/1 อ่านเพิ่มเติม »

รูตคิวบ์ของ 27a ^ 12 คือสี (แดง) (3a ^ 4) ลองเรียกคำที่เราต้องการหา n จากนั้นเราสามารถเขียนปัญหานี้เป็น: n = root (3) (27a ^ 12) และเพราะราก (สี (สีแดง) (n)) (x) = x ^ (1 / color (สีแดง) (n)) เรา สามารถเขียนใหม่เป็น: n = (27a ^ 12) ^ (1/3) ต่อไปเราสามารถเขียน 27 เป็น: n = (3 ^ 3a ^ 12) ^ (1/3) ตอนนี้เราสามารถใช้กฎของ เลขชี้กำลังเพื่อกำจัดเลขชี้กำลังนอกวงเล็บ: (x ^ color (สีแดง) (a)) ^ color (สีฟ้า) (b) = x ^ (สี (สีแดง) (a) สี xx (สีฟ้า) (b)) n = (3 ^ color (สีแดง) (3) a ^ color (สีแดง) (12)) ^ color (สีฟ้า) (1/3) n = 3 ^ (สี (สีแดง) (3) xxcolor (สีน้ำเงิน) (1/3) )) a ^ (สี (สีแดง) (12) xxcolor (สีน้ำเงิน) (1/3)) n = 3 ^ ( อ่านเพิ่มเติม »

Root (3) (297) = 3root (3) (11) root (3) (297) แยกตัวออกเป็น sice 2 + 9 + 7 = 18 เรารู้ว่า 297 หารด้วย 9. root (3) (297) = root (3) (33 * 9) เนื่องจาก 3 + 3 = 6 เรารู้ว่า 33 หารด้วย 3 root (3) (33 * 9) = root (3) (11 * 3 * 9) 11 เป็นจำนวนเฉพาะดังนั้นจึงมี ไม่มีแฟคตอริ่งทำอีกต่อไป เรารู้ว่า 9 = 3 ^ 2 ดังนั้นเราจึงสามารถเขียนใหม่ 3 * 9 = 3 * 3 ^ 2 = 3 ^ 3 รูท (3) (33 * 9) = รูท (3) (11 * 3 ^ 3) The 3 ^ 3 สามารถออกจากรูทได้ดังนั้นรูท (3) (297) = 3 รูท (3) (11) อ่านเพิ่มเติม »

Root3 351 = 3root3 13 ประมาณ 7.054 เมื่อค้นหารูท n ^ (th) ของจำนวนเต็มมันมักจะมีประโยชน์ในการแสดงจำนวนเต็มเป็นปัจจัยสำคัญ ในกรณีนี้ 351 = 3xx3xx3xx13: root3 351 = root3 (3xx3xx3xx13) ทีนี้เนื่องจาก 3 ปรากฎสามครั้งในการแยกตัวประกอบเราสามารถนำมันผ่านรูตดังต่อไปนี้ root3 351 = 3root3 13 เนื่องจาก root3 13 ไม่มีเหตุผลผลลัพธ์ข้างต้นคือ "ค่าที่แน่นอน" การประมาณทศนิยมสามารถพบได้โดยใช้เครื่องคิดเลข root3 351 ประมาณ 7.054 อ่านเพิ่มเติม »

Root (3) 88 = 2root (3) 11 หรือทศนิยมใกล้เคียงกับทศนิยม 25 ตำแหน่งที่ 4.4479601811386310423307268 ค้นหาปัจจัยที่เป็นรากเลขลูกบาศก์ (3) (8 * 11) แยกจำนวนทวีคูณโดยใช้ root กฎราก (n) ( xy) = root (n) x * root (n) y root (3) 8 * root (3) 11 ลูกบาศก์รูทของ 8 คือ 2 2 * root (3) 11 2root (3) 11 อ่านเพิ่มเติม »

Distance = 34.482 ... ใช้ทฤษฎีบทปีทาโกรัสโดยที่ d คือระยะห่างระหว่างจุดสองจุด d = sqrt ((13--4) ^ 2 + (- 41--11) ^ 2) สี (ขาว) (d) = sqrt ((17) ^ 2 + (- 30) ^ 2) สี (ขาว) (d) = sqrt (1189) สี (สีขาว) (d) = 34.482 ... อ่านเพิ่มเติม »

2 root3 (12) หรือ 4.5788569 ... เขียนซ้ำ 96 เป็น 2 ^ 3 xx 12 ตัวประกอบ 8 จาก 96 ตอนนี้ root3 (96) = root3 (8xx12) = root3 (2 ^ 3xx12) ดึงคำศัพท์ออกมาจากใต้รากศัพท์ = 2root3 (12) สามารถดึงฟอร์มทศนิยมอื่น ๆ ได้ = 4.57885697 ... อ่านเพิ่มเติม »

Root3 (1) = root3 (1xx1xx1) = 1 1 เป็นตัวเลขที่น่าทึ่ง !! เป็นหมายเลขเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้เป็นแบบไพรม์หรือคอมโพสิตเนื่องจากมีเพียงปัจจัยเดียว (1) อย่างไรก็ตามมันเป็นรูปสี่เหลี่ยมลูกบาศก์กำลังสี่พลังงานที่ 5 เป็นต้น 1xx1 = 1 ^ 2 = 1 "" rarr sqrt1 = 1 1xx1xx1 = 1 ^ 3 = 1 "3" 1 rarr root3 (1) = 1 1xx1xx1xx1 = 1 ^ 4 = 1 "" rarr root4 (1) = 1 อ่านเพิ่มเติม »

Root (3) (x ^ 8) = x ^ 2 root (3) (x ^ 2) หรือหากคุณต้องการ: root (3) (x ^ 8) = x ^ (8/3) สำหรับ a, b ใน RR, root (3) (ab) = root (3) (a) root (3) (b) และ root (3) (a ^ 3) = a So: root (3) (x ^ 8) = root ( 3) (x ^ 6 * x ^ 2) = root (3) ((x ^ 2) ^ 3 * x ^ 2) = root (3) ((x ^ 2) ^ 3) ราก (3) (x ^ 2) = x ^ 2 รูท (3) (x ^ 2) อ่านเพิ่มเติม »

ดูกระบวนการแก้ปัญหาด้านล่าง: "Percent" หรือ "%" หมายถึง "out of 100" หรือ "per 100" ดังนั้น 1% สามารถเขียนเป็น 1/100 นอกจากนี้ในบริบทนี้ที่มีเศษส่วนคำว่า "of" หมายถึงการคูณ จากนั้นเราสามารถเขียนนิพจน์เป็น: 1/5 xx 1/100 => (1 xx 1) / (5 xx 100) => 1/500 เราสามารถคูณมันด้วยรูปแบบของการให้ 1: 2/2 xx 1 / 500 => (2 xx 1) / (2 xx 500) => 2/1000 2 หนึ่งในพันสามารถเขียนเป็น: 0.002 ซึ่งเป็นคำตอบ d) ในคำถาม อ่านเพิ่มเติม »

16 / 3- = 5.3bar3color (สีขาว) (.. ) โดยที่ - = หมายถึงเทียบเท่ากับสี (สีฟ้า) ("มีบางสิ่งที่เทียบเท่ากับหน่วยความจำที่ต้องใช้ในการจำ") สี (สีเขียว) (1 / 10-> 0.1 ) สี (สีเขียว) (2 / 10-> 1 / 5-> 0.2) สี (สีเขียว) (3/10> 0.3 "และอื่น ๆ ") สี (สีน้ำตาล) (1 / 2-> 0.5) สี (สีน้ำตาล ) (1 / 4-> 0.25) สี (สีน้ำตาล) (1 / 3-> 0.3bar3 "โดยที่" bar3 "หมายความว่าสี 3 ทำซ้ำตลอดกาล") (สีน้ำตาล) ("ถ้าเรามี" 1/3 -> 0.3bar3 "จากนั้น" 2 / 3-> 0.6bar6) สี (สีน้ำตาล) (1 / 8-> 0.125) ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ~~~~~~~~~~~~~~~~ สี (สีฟ้า) ("ตอบคำถาม") อ่านเพิ่มเติม »

การสิ้นสุดที่ -4.625 เราทำการวัดใน 1 / 8color (white) ("") ^ ("ths") ซึ่งสิ้นสุดใน 1/8 = 0.125 ดังนั้นเราจึงมี -37 ของพวกเขา -37xx0.125 color (red) (= -4.625) '~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ~ color (blue) ("เคล็ดลับเกี่ยวกับการแก้ปัญหาโดยไม่มีเครื่องคิดเลข") เพียงแค่ใช้ตัวเลข โปรดจำไว้ว่าท้ายที่สุดนี่คือคำตอบเชิงลบ! สี (สีน้ำตาล) ("จุดเริ่มต้น!") จำไว้ว่า 1/8 = 0.125 เขียน 0.125 เป็น 125 xx1 / 100 คุณสามารถ 'แยก' 125 เป็น 100 +25 แต่ 25 = 1/4 "ของ" 100 '... .................................................. ........................................ สี อ่านเพิ่มเติม »

1/2 = 0.5 ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ทำไมเป็น ที่? โครงสร้างของทศนิยมคือ: จุดทศนิยม "" darr "units" + 10 ^ ("ths") + 100 ^ ("ths") + 1,000 ^ ("ths") + .. และอื่น ๆ ลองดูว่าเรา สามารถแปลง 1/2 เป็นหนึ่งในนี้ คูณด้วย 1 และคุณจะไม่เปลี่ยนค่าจริง อย่างไรก็ตาม 1 coms ในหลายรูปแบบ 1/2 -> สี (สีเขียว) ([1 / 2color (สีแดง) (xx1)] "" = "" [1 / 2color (สีแดง) (xx5 / 5)] "" = "" (1xx5) / (2xx5 ) "" = "" 5/10) ........................................ .................................. ดังนั้นเราจึงมี: "หน่วย อ่านเพิ่มเติม »

ความเป็นอมตะนั้นเป็นผลประโยชน์หรือค่าใช้จ่ายที่ส่งผลกระทบต่อคนที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการผลิตหรือการบริโภคสินค้าหรือบริการ ตัวอย่างเช่นลองจินตนาการว่าพื้นที่นั้นมีมลพิษสูง แม้ว่าเกษตรกรจะไม่เกี่ยวข้องกับการสร้างมลพิษ แต่ก็ยังได้รับผลกระทบในทางลบจากการมีอยู่ของมัน ภายนอกอาจมีผลกระทบด้านลบหรือบวก อ่านเพิ่มเติม »

อนุมูลอิสระปกติคือรากของพหุนามของรูปแบบ x ^ n - a = 0 ถ้า n = 2 จากนั้นเราเรียก xa สแควร์รูทของ a ถ้า n = 3 จากนั้นเราเรียกราก xa ลูกบาศก์ของอนุมูลปกติหรือที่รู้จักกันในชื่อ nth ราก. ถ้า> = 0 ดังนั้น x ^ n - a = 0 จะมีรูตจริงที่เป็นบวกซึ่งรู้จักกันในชื่อรูทหลักที่ n คือรูทที่เขียน (n) (a) ถ้า n เป็นเลขคู่ดังนั้น -root (n) (a) จะเป็นรากที่ n ของ ถ้าพหุนามมีระดับ <= 4 จะสามารถหาค่าศูนย์และแสดงโดยใช้อนุมูลปกติเพียง: รากที่สองและรากลูกบาศก์ (โปรดทราบว่ารากที่สี่เป็นเพียงรากที่สองของรากที่สอง) หากพหุนามมีระดับ 5 - ควินติคแล้วรากของมันอาจไม่สามารถแสดงออกได้ในแง่ของอนุมูลปกติ เพื่อให้ได้มากกว่าข้อ จำกัด นี้ Bring radical เป อ่านเพิ่มเติม »

อัตราส่วนคือความสัมพันธ์เชิงตัวเลขระหว่างสองปริมาณความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณสองปริมาณมักจะแสดงทางคณิตศาสตร์ ความสัมพันธ์นี้เรียกว่าอัตราส่วน อัตราส่วนสามารถแสดงได้ง่ายที่สุดในฐานะเศษส่วน เศษส่วนทั้งหมดเป็นอัตราส่วนจริง ชอบ (1/4 ") / (1ft) นี่คืออัตราส่วนที่มักใช้ในงานพิมพ์สีฟ้าโดยที่ 1/4 นิ้วหมายถึงระยะทาง 1 ฟุตที่แท้จริงของอาคารนอกจากนี้อัตราส่วนยังสามารถแสดงได้เช่น 2: 3 ปัจจุบันในวิทยาลัยของอเมริกาที่นั่น เป็นเด็กชาย 2 คนสำหรับเด็กผู้หญิง 3 คนอัตราส่วน e ใช้เพื่อแก้สัดส่วนเช่นปัญหาร้อยละ 2 / 5th คือร้อยละ 100 2/5 =% / 100 อัตราส่วนสองชุดถูกตั้งค่าให้เท่ากับสัดส่วนอื่น ๆ ความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ระหว่างสอง quantitates อ่านเพิ่มเติม »

รูปแบบมาตรฐานเป็นวิธีการเขียนตัวเลขขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กได้อย่างง่ายดาย ดูตัวอย่างด้านล่างเขียน 81 900 000 000 000 ในรูปแบบมาตรฐาน: 81 900 000 000 000 = 8.19 × 10 ^ 13 ที่ 13 หมายความว่าจุดทศนิยมถูกย้าย 13 ครั้งและ 10 b / c เป็นศูนย์และคุณมักจะใช้มัน ดังนั้นทำไม 10 ^ 13 อ่านเพิ่มเติม »

ศูนย์รากสูตรสมการกำลังสองคือ x = (- b + -sqrt (b ^ 2-4ac)) / (2a) หรือ x = -b / (2a) + - (sqrt (b ^ 2-4ac)) / (2a) เรา สามารถเห็นได้ว่าส่วนเดียวที่สำคัญคือ + - (sqrt (b ^ 2-4ac)) / (2a) ราวกับว่านี่เป็นศูนย์แล้วมันบอกว่ามีเพียงจุดยอด -b / (2a) อยู่บนแกน x เรา ยังรู้ว่า sqrt (-1) นั้นไม่ได้ถูกกำหนดเนื่องจากมันไม่มีอยู่ดังนั้นเมื่อ b ^ 2-4ac = -ve แล้วฟังก์ชันนั้นไม่ได้ถูกกำหนด ณ จุดนั้นโดยไม่แสดงรากขณะที่ถ้า + - (sqrt (b ^ 2-4ac) ) / (2a) มีอยู่แล้วเรารู้ว่ามันกำลังถูก plussed และ minused จากจุดสุดยอดที่แสดงเป็นสองรากอย่างย่อ: b ^ 2-4ac = -ve แล้วไม่มีรากจริง b ^ 2-4ac = 0 หนึ่งรากจริง b ^ 2-4ac = + ได้สองรากจริงดังนั้น (-1 อ่านเพิ่มเติม »

2 ระดับของพหุนามเป็นกำลังสูงสุดที่ตัวแปรใด ๆ ยกขึ้น ในกรณีนี้กำลังสูงสุดคือ y ^ color (สีแดง) 2 ดังนั้นระดับของพหุนามคือสี (สีแดง) 2 อ่านเพิ่มเติม »

(t + 1) / (t-6) คุณต้องแยกแยะปัจจัยด้านบนและด้านล่างเพื่อหาปัจจัยที่ทวีคูณเป็น -6 และเพิ่มเข้าไปใน -5 ปัจจัยที่เป็นไปได้คือ 6,1 และ 3,2 เรารู้ว่า -6 และ +1 เพิ่มไปที่ -5 และทวีคูณ -6 ในทำนองเดียวกันปัจจัย -6 และ -1 เพิ่มไปที่ -7 และคูณกับ 6 ((t-6) (t + 1)) / ((t-6) (t-1) สามารถลบตัวประกอบร่วมของ (t-) 6) จากตัวส่วนและตัวเศษเพื่อรับ (t + 1) / (t-6) อ่านเพิ่มเติม »

ระดับของพหุนาม 18 ^ 3-3w ^ 2 + 4y ^ 4-3 คือ 4 ระดับของพหุนามเป็นระดับสูงสุดของคำใด ๆ ระดับของคำคือผลรวมของเลขชี้กำลังของตัวแปรซึ่งเป็นปัจจัยของคำนั้น สี (ขาว) ("XXXX") ระดับ 18 ^ 3 คือ 0 สี (ขาว) ("XXXX") ระดับ 3x ^ 2 คือ 2 สี (ขาว) ("XXXX") ระดับ 4y ^ 4 คือ 4 color (white) ("XXXX") ระดับของ 3 คือ 0 ระดับสูงสุดของคำคือ 4 ระดับของพหุนามเท่ากับ 4 อ่านเพิ่มเติม »

(x + 2) ปัจจัยแรกคือตัวเศษ (นี่คือวิธีหนึ่ง): x ^ 2-x-6 = x ^ 2-3x + 2x-6 = x (x-3) +2 (x-3) = (x +2) (x-3) ดังนั้นเราจึงมี ((x + 2) (x-3)) /? = x-3 ดังนั้นเราต้องการให้คำที่หายไปหารด้วย (x + 2) ซึ่งหมายความว่ามันจะต้อง เป็น (x + 2) ถ้าเป็น (x + 2), ((x + 2) (x-3)) / (x + 2) = (x-3) -> (ยกเลิก ((x + 2)) (x-3)) / ยกเลิก ((x + 2)) = (x-3) (x-3) / 1 = (x-3) อ่านเพิ่มเติม »

โดเมนคือ x> = 4 เนื่องจากรากที่สองจะถูกกำหนดเฉพาะเมื่อการแสดงออกภายใต้รากที่สองไม่เป็นลบเพื่อค้นหาโดเมนที่เราตั้งค่าการแสดงออกภายใต้รากที่สองมากกว่าหรือเท่ากับศูนย์: x - 4> = 0 x> = 4 อ่านเพิ่มเติม »

โดเมนคือ -6 <= x <= 6 ในรูปแบบช่วงเวลา: [-6,6] รากที่สองจะถูกกำหนดเฉพาะเมื่อการแสดงออกภายใต้รากที่สองไม่ได้เป็นเชิงลบ ฟังก์ชั่นนี้ถูกกำหนดเมื่อ: 36 - x ^ 2> = 0 x ^ 2 <= 36 abs x <= 6 -6 <= x <= 6 อ่านเพิ่มเติม »

คุณต้องแทนที่ (แทนที่) หนึ่งในสิ่งที่ไม่ทราบในสมการอื่นเรารู้ว่า x-5y = -9 ดังนั้นที่นี่เรามี: x = 5y-9 แทนค่าในสมการอื่นที่เรามี: y = 3x-12 = 3 (5y-9) -12 = 15y-27-12 = 15y-39 แล้ว: y + 39 = 15y และ 39 = 14y แล้ว y = 39/14 ตอนนี้เราสามารถใช้ x = 5y-9 ดังนั้นเราจึงมี x = 5 * 39 / 14-9 = 195 / 14-9 = (195-126) / 14 = 69/14 การแก้ปัญหาคือ x = 69/14, y = 39/14 อ่านเพิ่มเติม »

D = 27 '' a และ b = ด้านข้างของ retangle a = (16/9) xxb ab = 320 b = 320 / aa = (16/9) xx (320 / a) a ^ 2 = 5120/9 a ~ = 23.85 b ~ = 320 / 23.85 ~ = 13.4 d ^ 2 ~ = 23.85 ^ 2 + 13.4 ^ 2 d ~ = sqrt (748.88) ~ = 27.3 '' อ่านเพิ่มเติม »

D = 1.6 ใช้; C = 2pir ที่ไหน; C = "เส้นรอบวง" r = "รัศมี" เรียกคืน; D = 2r D = "เส้นผ่านศูนย์กลาง" ดังนั้น; r = D / 2 การแทน r เข้าสู่สมการหลัก .. C = 2pi (D / 2) C = cancel2pi (D / cancel2) C = piD การทำให้ D เป็นเรื่อง; C / D = (piD) / D C / pi = (cancelpiD) / cancelpi D = C / pi เมื่อ; C = 5 pi = 22/7 D = 5 / (22/7) D = 5 div 22/7 D = 5 xx 7/22 D = 35/22 D = 1.59090 D = 1.6 อ่านเพิ่มเติม »

นั่นเป็นคำถามที่ดี ... มันเป็นวิธีการศึกษาส่วนบุคคลของคุณ บางคนจะพบว่าการทำแบบฝึกหัดที่ท้าทายจำนวนมากในคณิตศาสตร์ของพวกเขาเป็นวิธีที่ดีในการฝึกฝนสำหรับการทดสอบของคุณราวกับว่าคุณสามารถทำปัญหายาก ๆ ได้คุณยังสามารถแก้ปัญหาที่ง่ายขึ้นได้อีกด้วย บางคนจะพบว่ามีประโยชน์หากมีคนอธิบายแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาทั้งทางสายตาหรือทางปากเช่นในวิดีโอออนไลน์หรือการบรรยาย บางคนจะพบว่ามีประโยชน์ในการลองนึกภาพพีชคณิตทางกายภาพเช่นในเรื่องของสกุลเงินหรือวัตถุ (แอปเปิ้ลมีราคา 5 เท่ากว่ากล้วยและส้มด้วยกัน ... ) โดยส่วนตัวแล้ววิธีการศึกษาพีชคณิตของฉันคือการออกกำลังกายมากมาย เพื่อท้าทายตัวเอง ในที่สุดคุณก็จะคุ้นเคยกับวิธีการที่เกี่ยวข้องและมันก็เ อ่านเพิ่มเติม »

สำหรับการเรียงสับเปลี่ยนมีความสำคัญในขณะที่การรวมกันมันไม่ได้ มันคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับการสั่งซื้อด้วยชุดค่าผสมและพีชคณิต บางครั้งเมื่อคุณเลือกค่าแบบสุ่มเพื่อสร้างชุดมันจะมีความสำคัญกับลำดับของค่าและบางครั้งก็ไม่เป็นเช่นนั้น นั่นคือความแตกต่างระหว่างการเรียงสับเปลี่ยนกับชุดค่าผสม ลองนึกภาพเรามีลูกบอลบิงโกหนึ่งชาม มี 10 ลูกแต่ละหมายเลข 0, 1, ... , 9. ลองจินตนาการว่าตอนนี้เราเลือก 2 ลูกในแต่ละครั้งแล้วแทนที่พวกเขาก่อนที่จะทำซ้ำ เราจะได้ลูกบอลที่แตกต่างกันหลายวิธี หากเรานับการเรียงสับเปลี่ยนจากนั้นการวาด 1 และ 2 นั้นแตกต่างจากการวาด 2 และ 1 แล้วในขณะที่ถ้าเรานับการรวมกันไม่ว่าเราจะจบด้วย 1 และ 2 มันก็เหมือนกัน . ดังนั้นจึงมีช อ่านเพิ่มเติม »

สมการเชิงเส้นสามารถมีตัวแปรและตัวเลขเท่านั้นและตัวแปรจะต้องยกกำลังแรกเท่านั้น ตัวแปรจะต้องไม่ถูกหารด้วยตัวคูณ จะต้องไม่มีฟังก์ชั่นอื่น ๆ ตัวอย่าง: สมการเหล่านี้เป็นเส้นตรง: 1) x + y + z-8 = 0 2) 3x-4 = 0 3) sqrt (2) t-0.6v = -sqrt (3) (สัมประสิทธิ์อาจไม่ลงตัว) 4) a / 5-c / 3 = 7/9 เหล่านี้ไม่ใช่เชิงเส้น: 1) x ^ 2 + 3y = 5 (x อยู่ในกำลังที่ 2)) a + 5sinb = 0 (บาปไม่ได้รับอนุญาตในฟังก์ชันเชิงเส้น) 2) 2 ^ x + 6 ^ y = 0 (ตัวแปรต้องไม่อยู่ใน exponents) 3) 2x + 3y-xy = 0 (ไม่อนุญาตการคูณของตัวแปร) 4) a / b + 6a-v = 0 (ตัวแปรไม่สามารถ ในตัวหาร) อ่านเพิ่มเติม »

โดเมน: x> = 1 กฎเดียวที่ต้องพิจารณาเมื่อค้นหาโดเมนคือเพื่อจุดประสงค์เหล่านี้คุณไม่สามารถมีตัวเลขติดลบภายใต้ sqrt เมื่อรู้สิ่งนี้คุณสามารถอนุมานได้ว่าสำหรับ f (x) = sqrt (x-1) (ทั้ง 2 ไม่สำคัญสำหรับโดเมน) f (x) ต้องมีอย่างน้อย 0. sqrt0 คือ 0 ดังนั้น x จึงสามารถ ค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 1 เพราะอะไรที่น้อยกว่า 1 จะให้ค่าที่ไม่เป็นจริงสำหรับ sqrt (x-1) ดังนั้นโดเมนคือ x> = 1 อ่านเพิ่มเติม »

สมการคำว่าทุกอย่างเท่ากัน ในสมการส่วนซ้ายและขวามีค่าเท่ากัน คุณอาจมีสมการ: 2x + 5 = 3x-7 มี x ที่นี่เป็นจริง ด้วยการแก้สมการนี้คุณจะพบมัน (ดูนี่เป็นความท้าทาย) ความไม่เท่าเทียมกันคำว่ามันทั้งหมด: inequal => ไม่เท่ากัน ในความไม่เท่าเทียมกันมีสัญลักษณ์อื่น ๆ ระหว่างด้านซ้ายและด้านขวา สัญลักษณ์เหล่านี้ไม่ได้มีความหมายเท่าเทียมกัน แต่มีความไม่เท่าเทียมกัน คุณมีสัญลักษณ์ดังนี้: มากกว่า> เล็กกว่า <มากกว่าหรือเท่ากับ> = เล็กกว่าหรือเท่ากับ <= มีการใช้งานตามที่คุณคาดหวังจากความหมายภาษาอังกฤษของพวกเขา 2x + 5 <= 3x-7 หมายความว่ามี x ซึ่งเป็นจริงและ 2x + 5 นั้นน้อยกว่าหรือเท่ากับ 3x-7 (ดูนี่เป็นความท้าทายเช่นกัน) หว อ่านเพิ่มเติม »

แนวคิดทั้งสองนั้นแตกต่างกันมากและบางครั้งก็เหมือนกัน ดูคำอธิบาย ... เส้นกำกับแนวดิ่งมักจะตรงกับ 'รู' ในโดเมนและเส้นกำกับแนวนอนมักจะตรงกับ 'รู' ในช่วง แต่สิ่งเหล่านี้เป็นจดหมายโต้ตอบเดียวที่ฉันนึกได้ ตัวอย่างเช่นเราสามารถกำหนดฟังก์ชัน t ดังนี้: t (x) = {(0, "if" x = ((2k + 1) pi) / 2 "สำหรับบาง" k ใน ZZ), (tan (x) , "ไม่เช่นนั้น"):} จากนั้น t (x) มีเส้นกำกับแนวดิ่งที่ ((2k + 1) pi) / 2 สำหรับ k ทั้งหมดใน ZZ แต่ไม่มี 'รู' ฟังก์ชั่น f (x) = (x ^ 2-1) / (x-1) ไม่มีเส้นกำกับ (ยกเว้นคุณนับ y = x + 1) แต่มันมี 'รู' ที่ x = 1 โดยที่ f ( x) ไม่ได้ถูกกำหนดไว้ อ่านเพิ่มเติม »

-5/4 ใช้ fomula ของความชัน: m = (y_2-y_1) / (x_2-x_1) คุณทำ y_2 ที่สอง (ซึ่งคือ -1) ลบ y_1 แรก (ซึ่งคือ 4), มากกว่า x_2 ที่สอง (ซึ่งคือ 2) ลบ x แรก (ซึ่งคือ -2) (-1 - 4) / (2 - (-2)) จากนั้นคุณแก้ปัญหาด้านบนและด้านล่างและเหลือด้วย -5/4 ซึ่งเป็นความชันของคุณ อ่านเพิ่มเติม »

เมื่อคุณคูณจำนวนกลับซึ่งกันและกันด้วยหมายเลขเดิมผลลัพธ์คือ 1 เมื่อคุณเพิ่มส่วนตรงข้ามกับหมายเลขเดิมผลลัพธ์คือ 0 4 * ¼ = 1 recip เป็นส่วนกลับของ 4 7 + (- 7) = 0 - 7 อยู่ตรงข้ามกับ 7 อ่านเพิ่มเติม »

ดูด้านล่าง รูทคือจำนวนที่คูณกับตัวเองให้จำนวนที่เราต้องการในขณะที่แฟคเตอร์คือจำนวนใด ๆ ที่หารจำนวนที่เราต้องการโดยไม่เหลือส่วนที่เหลือ ตัวอย่างเช่นในหมายเลข 9 สี (แดง) (Ro) สี (แดง) (ot rarr) 3 ตั้งแต่ 3xx3 = 9 และ Factorrarr 1,3,9 ตั้งแต่ 1 หาร 9 เก้าครั้ง (ไม่มีส่วนที่เหลือ) สี (สีขาว) (aaaa ) 3 แบ่ง 9 สามครั้ง (ไม่มีส่วนที่เหลือ) สี (สีขาว) (aaaa) 9 แบ่ง 9 ครั้งเดียว (ไม่มีส่วนที่เหลือ) หวังว่านี่จะช่วยได้ :) อ่านเพิ่มเติม »

ที่นี่: กราฟ {1 / (x-4) [-10, 10, -5, 5]} คุณสมบัติที่สำคัญคือ: เส้นกำกับแนวดิ่งที่ x = 4 y มีแนวโน้มที่ 0 เนื่องจาก x มีแนวโน้มที่จะ + -oo y เป็นค่าบวกสำหรับ x > 4 y เป็นค่าลบสำหรับ x <4 อ่านเพิ่มเติม »

ทั้งอัตราและอัตราส่วนเป็นการเปรียบเทียบตัวเลขสองตัว อัตราเป็นเพียงประเภทของอัตราส่วนเฉพาะ ความแตกต่างคืออัตราคือการเปรียบเทียบตัวเลขสองตัวกับหน่วยต่าง ๆ ในขณะที่อัตราส่วนเปรียบเทียบสองตัวเลขกับหน่วยเดียวกัน ตัวอย่างเช่นในห้องที่เต็มไปด้วยนักเรียนมีเด็กผู้ชาย 10 คนและเด็กผู้หญิง 5 คน ซึ่งหมายความว่าอัตราส่วนของเด็กชายต่อหญิงคือ 10: 5 หากเราทำให้อัตราส่วนลดลงเราจะเห็นว่าอัตราส่วนของเด็กชายกับหญิงคือ 2: 1 เนื่องจาก 10 -: 5 = 2 และ 5 -: 5 = 1 ดังนั้นจึงมีเด็กชาย 2 คนในห้องสำหรับผู้หญิงทุกคน 1 คน สมมติว่าเราต้องการซื้อโซดาสำหรับนักเรียนแต่ละคนในห้องเรียน ร้านพิซซ่าท้องถิ่นเสนอส่วนลดกลุ่มสำหรับการซื้อโซดา: $ 10 สำหรับโซดา 20 ใบ อ่านเพิ่มเติม »

ดูด้านล่างในขณะที่คำถามระบุ - มันเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่แตกต่างกันในการแสดงสิ่งเดียวกัน เมื่อคุณเป็นตัวแทนของชุดที่มีเครื่องหมายชุดคุณมองหาลักษณะที่ระบุองค์ประกอบของชุดของคุณ ตัวอย่างเช่นหากคุณต้องการอธิบายชุดจำนวนทั้งหมดที่มากกว่า 2 และน้อยกว่า 10 คุณเขียน {x in mathbb {R} | 2 <x <10 } ที่คุณอ่านว่า "จำนวนจริงทั้งหมด x (x in mathbb {R}) เช่นนั้น (สัญลักษณ์" | ") x อยู่ระหว่าง 2 และ 10 (2 <x <10) ในทางกลับกันถ้าคุณต้องการที่จะเป็นตัวแทนของชุดที่มีสัญกรณ์ช่วงเวลาคุณจะต้องรู้ว่าขอบเขตบนและล่างของชุดหรืออาจจะเป็นขอบเขตบนและล่างของช่วงเวลาทั้งหมดที่เขียนชุดตัวอย่างเช่นถ้าชุดของคุณ ประกอบด้วยตัวเลขทั้งห อ่านเพิ่มเติม »

ด้วยความสนใจอย่างง่ายดอกเบี้ยจะถูกคำนวณบนจำนวนเริ่มต้นเดิมเท่านั้นที่เรียกว่าเงินต้น จำนวนดอกเบี้ยจึงคงเดิมตั้งแต่หนึ่งปีจนถึงปีถัดไป ด้วยดอกเบี้ยทบต้นดอกเบี้ยที่ได้รับจะถูกเพิ่มเป็นจำนวนเงินเดิมซึ่งจะใหญ่กว่าตอนเริ่มต้น ดอกเบี้ยถูกคำนวณจากจำนวนที่มากขึ้นและเพิ่มอีกครั้งเป็นจำนวนเงินทั้งหมด จำนวนของดอกเบี้ยจึงมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากมูลค่าที่คำนวณได้นั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เปรียบเทียบดอกเบี้ย $ 5,000 ที่ 10% ต่อปีเป็นเวลา 4 ปี ความสนใจอย่างง่าย: ปีที่ 1: ลงทุน $ 5,000 ดอกเบี้ย = 10% = $ 500 ปีที่ 2: ลงทุน $ 5,000 ดอกเบี้ย = 10% = $ 500 ปี 3: $ 5,000 ลงทุน ดอกเบี้ย = 10% = $ 500 ปีที่ 4: การลงทุน $ 5,000 ดอ อ่านเพิ่มเติม »

ความไม่เสมอภาคนั้นยุ่งยากมาก เมื่อแก้สมการหลายขั้นตอนคุณใช้ PEMDAS (วงเล็บเลขชี้กำลังการคูณการหารการบวกการลบ) และคุณยังใช้ PEMDAS เมื่อแก้ไขความไม่เท่าเทียมกันหลายขั้นตอน อย่างไรก็ตามความไม่เท่าเทียมนั้นมีความยุ่งยากในความจริงที่ว่าถ้าคุณคูณหรือหารด้วยจำนวนลบคุณจะต้องพลิกเครื่องหมาย และในขณะที่โดยปกติจะมี 1 หรือ 2 วิธีแก้สมการหลายขั้นตอนในรูปแบบของ x = # คุณจะมีสิ่งเดียวกัน แต่มีเครื่องหมายความไม่เท่าเทียมกัน (หรือเครื่องหมาย) อ่านเพิ่มเติม »

สมมติว่าเรากำลังพูดถึงสมการกำลังสองในทุกกรณี: รูปแบบมาตรฐาน: y = ax ^ 2 + bx + c สำหรับค่าคงที่บางค่า a, b, c รูปแบบจุดยอด: y = m (xa) ^ 2 + b สำหรับค่าคงที่ m , a, b (จุดยอดอยู่ที่ (a, b)) รูปแบบที่มีการแยก: y = (ax + b) (cx + d) หรืออาจเป็น y = m (ax + b) (cx + d) สำหรับค่าคงที่บางค่า a, b, c, d (และ m) อ่านเพิ่มเติม »

11/12 คุณไม่สามารถบวกสองตัวนี้ได้โดยตรงคุณต้องการให้มันเป็นส่วนเดียวกันถ้าคุณต้องการเพิ่มตอนนี้เพื่อให้เศษ 5/6 ตัวส่วนเป็น 12 เราสามารถคูณเศษและส่วนด้วย 2 ตอนนี้ เศษส่วนคือ 10/12 ตอนนี้คุณสามารถเพิ่มได้ (1/12) + (10/12) = 11/12 อ่านเพิ่มเติม »

(sqrt (x-1)) ^ 2 = x-1 (sqrt (x) -1) ^ 2 = x-2sqrt (x) +1 สังเกตว่า sqrt (x-1) เป็นคำเดียวในขณะที่ sqrt (x ) -1 มีสองคำ เมื่อเรายกกำลังสอง sqrt (x) -1 เราต้องใช้สมบัติการกระจายเมื่อคูณซึ่งแตกต่างจาก squaring sqrt (x-1) (sqrt (x-1)) ^ 2 = sqrt (x-1) * sqrt (x-1) = x-1 (sqrt (x) -1) ^ 2 = (sqrt (x) -1) (sqrt ( x) -1) = sqrt (x) * sqrt (x) + sqrt (x) * (- 1) + (- 1) * sqrt (x) + (- 1) (- 1) (- 1) = x-2sqrt (x ) 1 อ่านเพิ่มเติม »

5 สูตรระยะทางซึ่งมาจากทฤษฎีบทพีทาโกรัสสามารถใช้เพื่อหาระยะห่างระหว่างจุดสองจุด: D = sqrt ((x_ {2} -x_ {1}) ^ {2} + (y_ {2} - y_ {1}) ^ {2}) ถ้าเราปล่อยให้ (1,3) เป็นจุด 1 และ (5,6) เป็นจุดที่ 2 เราสามารถแทนที่ x และ y-พิกัดของแต่ละจุดเป็นสูตรระยะทาง: D = sqrt (((5) - (1)) ^ {2} + ((6) - (3)) ^ {2}) จากนั้นทำการลดความซับซ้อนของระยะทาง (D): D = sqrt ((4) ^ { 2} + (3) ^ {2}) D = sqrt (16 + 9) D = sqrt (25) D = 5 อ่านเพิ่มเติม »

X = + - 3, y = + - 2 วิธีที่คุณเขียนปัญหาคือความสับสนอย่างยิ่งและฉันขอแนะนำให้คุณเขียนคำถามด้วยภาษาอังกฤษที่สะอาดกว่าเพราะจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน ให้ x เป็นตัวเลขตัวแรกและ y เป็นตัวเลขที่สอง เรารู้ว่า: x ^ 2-y ^ 2 = 5 --- ฉัน 3x ^ 2 + y ^ 2 = 31 --- ii จาก ii, 3x ^ 2 + y ^ 2 = 31 3x ^ 2 = 31-y ^ 2 3x ^ 2-31 = -y ^ 2 --- iii แทนที่ iii เป็น i, x ^ 2-y ^ 2 = 5 x ^ 2 + (- y ^ 2) = 5 x ^ 2 + (3x ^ 2-31 ) = 5 4x ^ 2-31 = 5 4x ^ 2 = 36 x ^ 2 = 9 x = + - sqrt (9) x = + - 3 --- iv แทน iv เข้า i, x ^ 2-y ^ 2 = 5 (+ -3) ^ 2-y ^ 2 = 5 [(+ -a) ^ 2 = a ^ 2] 9-y ^ 2 = 5 -y ^ 2 = -4 y ^ 2 = 4 y = + - sqrt4 y = + - 2 ดังนั้น (x, y) = (+ อ่านเพิ่มเติม »

X-13 = 3 16-13 = 3 ดังนั้น x เท่ากับ 16 อ่านเพิ่มเติม »

ทั้งสองหมายถึงการคูณ ในพีชคณิตพื้นฐานความหมายของมันนั้นเทียบเท่ากับการคูณทั้งสอง เมื่อเขียนด้วยมือมันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะใช้ * หรือวงเล็บ (เช่น (2x) (4y) = 8xy) เพื่อแสดงการคูณมากกว่า xx เพราะง่ายต่อการสร้างความสับสน xx ด้วย x โดยไม่มีลายมือที่แม่นยำมาก ในฐานะที่เป็นหนึ่งในความก้าวหน้าทางคณิตศาสตร์มันเป็นมาตรฐานที่จะเห็น xx ใช้น้อยลงเมื่อเทียบกับ * หรือละเว้นสัญลักษณ์ทั้งหมดสำหรับ denoting คูณ ในหลักสูตรขั้นสูงเพิ่มเติมความหมายของ * และ xx อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับบริบท ตัวอย่างเช่นในแคลคูลัสเวกเตอร์ * หมายถึงผลิตภัณฑ์ดอทและ xx หมายถึงผลิตภัณฑ์ครอส ในพีชคณิตนามธรรม xx อาจถูกใช้เพื่อแสดงถึงผลิตภัณฑ์โดยตรง ตัวอย่างเช่น RRxxR อ่านเพิ่มเติม »

สมมุติว่า f (x) = - 2x ^ 2 ดังนั้นเรามี y = f (x) และ y = f (x) +4 มันชัดเจนมากขึ้นในขณะนี้ที่ฟังก์ชั่นที่สองได้รับการเคลื่อนย้าย 4 หน่วยขึ้นไป กล่าวอีกนัยหนึ่ง f (x) แปลโดยคอลัมน์เวกเตอร์ [(0), (4)] y = f (x): กราฟ {-2x ^ 2 [-10, 10, -5, 5]} y = f (x) +4: กราฟ {-2x ^ 2 + 4 [-10, 10, -5, 5]} อ่านเพิ่มเติม »

Y = 3 จะเป็นเส้นแนวนอนตรง y = 3x จะเป็นเส้นตรง ฟังก์ชั่นแรก, y = 3, หมายถึงความสัมพันธ์คงที่หรือฟังก์ชั่น; มันบอกเราว่าทุกครั้งที่คุณเลือกค่าสำหรับ x ค่าสำหรับ y จะเป็น 3 เสมอนี่คือภาพกราฟิกโดยเส้นแนวนอนที่ผ่าน (0,3): กราฟ {0x + 3 [-16.02, 16.02, -8.01 , 8.01]} ที่สองคือฟังก์ชั่นแบบเส้นตรงซึ่งการเปลี่ยนแปลงของ x จะส่งผลให้ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงค่าของ y ตัวอย่างเช่น: ถ้า x = 3 ดังนั้น y = 3 * 3 = 9 แต่ถ้า x = 10 ดังนั้น y = 10 * 3 = 30; คุณเห็นด้วยว่าการเพิ่ม x จะทำให้ y เพิ่มขึ้นทำให้เราบอกว่ากราฟของฟังก์ชันจะเป็นเส้นตรงที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในเชิงบวก (ความชันจะเป็นบวก): กราฟ {3x [-16.02, 16.02, -8.01, 8.01]} อ่านเพิ่มเติม »

2.1 เซนต์ต่อออนซ์ถึง 10 ^ ("th") ที่ใกล้ที่สุดโปรดทราบว่าเราได้รับคำแนะนำ 'เป็น 10 ที่ใกล้ที่สุด' นี่หมายความว่าเราต้องทำงานเป็นทศนิยมและไม่ใช่เศษส่วน เศษส่วนจะให้คำตอบที่แน่นอน ใช้อัตราส่วน แต่ในรูปแบบเศษส่วน (นี่ไม่ใช่เศษส่วน) สี (สีน้ำตาล) ("พิจารณาเงื่อนไข 1:" สี (สีขาว) ("ddd") 30 "ออนซ์ที่" $ 1.79) เขียนเป็น: ("ต้นทุนเป็นเซ็นต์") / ("wieght in oz") -> 179/30 -> (179-: 30) / (30-: 30) = color (เขียว) ((5.966bar6) / 1) ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ สี (สีน้ำตาล) ("พิจารณาเงื่อนไข 2:" สี (ขาว) (" อ่านเพิ่มเติม »

(n-2) (n + 6) โดยใช้ SUM PRODUCT = n ^ 2 + 6n-2n-12 = n (n + 6) -2 (n + 6) = (n-2) (n-6) Hope สิ่งนี้ช่วยได้! อ่านเพิ่มเติม »

ก่อนอื่นให้ลบคำศัพท์ออกจากวงเล็บ ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อให้แน่ใจว่าสัญญาณสำหรับแต่ละคำศัพท์ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง: 8r ^ 6s ^ 3 - 9r ^ 5s ^ 4 + 3r ^ 4s ^ 5 - 2r ^ 4s ^ 5 + 5r ^ 3s ^ 6 - 4r ^ 5s ^ 4 ถัดไปกลุ่มคำที่ชอบ: 8r ^ 6s ^ 3 - 9r ^ 5s ^ 4 - 4r ^ 5s ^ 4 + 3r ^ 4s ^ 5 - 2r ^ 4s ^ 5 + 5r ^ 3s ^ 6 ตอนนี้รวมคำเช่น: 8r ^ 6s ^ 3 + (-9 - 4) r ^ 5s ^ 4 + (3 - 2) r ^ 4s ^ 5 + 5r ^ 3s ^ 6 8r ^ 6s ^ 3 - 13r ^ 5s ^ 4 + 5r ^ 4s ^ 5 + 5r ^ 3s ^ 6 หากต้องการคุณสามารถแยกส่วนคำทั่วไปของเรา: r ^ 3s ^ 3 ให้: r ^ 3s ^ 3 (8r ^ 3 - 13r ^ 2s ^ 1 + 5r ^ 1s ^ 2 + 5s ^ 3) อ่านเพิ่มเติม »

มีสูตรเดียวซึ่งหมายถึง "ความแตกต่างของกำลังสอง": a ^ 2 - b ^ 2 = (a-b) (a + b) ถ้าเราใช้ FOIL เราสามารถพิสูจน์ได้ ความแตกต่างของวิธีการกำลังสองจะหมายถึงการทำสิ่งต่อไปนี้: x ^ 2 -1 = (x - 1) (x + 1) x ^ 2 - 4 = (x-2) (x + 2) หรือแม้กระทั่งการสมัครสองครั้ง ที่นี่ x ^ 4 - 16 = (x ^ 2) ^ 2 - 4 ^ 2 = (x ^ 2 - 4) (x ^ 2 + 4) = (x-2) (x + 2) (x ^ 2 + 4 ) อ่านเพิ่มเติม »

8n-5 = 7 n = 3/2 หรือ 1 1/2 ความแตกต่างคือผลลัพธ์ของการลบ "คูณ" หมายถึงการคูณ สิ่งนี้ทำให้เรา: 8n-5 โดยที่ n คือจำนวน "เท่ากับ 7" หมายถึงการตั้งค่า 8n-5 เท่ากับ 7 8n-5 = 7 เราสามารถแก้สมการนี้เพื่อกำหนด n เพิ่ม 5 ทั้งสองด้าน 8n = 7 + 5 8n = 12 หารทั้งสองข้างด้วย 8 n = 12/8 ลดความซับซ้อน n = 3/2 หรือ 1 1/2 อ่านเพิ่มเติม »

-8x + 8 หรือ 8 (-x + 1) หรือ 8 (1 - x) เราสามารถเขียนนิพจน์ทางคณิตศาสตร์เพื่อเป็นตัวแทนของปัญหานี้เป็น: (x + 6) - (9x - 2) ก่อนอื่นเราต้องแก้ วงเล็บต้องแน่ใจว่าได้รับเครื่องหมายของคำแต่ละคำที่ถูกต้อง: x + 6 - 9x สี (แดง) (+) 2 ตอนนี้เราสามารถจัดกลุ่มคำเช่น: x - 9x + 6 + 2 ถัดไปเราสามารถรวมคำเหมือนกัน จำสี (แดง) (x = 1x): (1 - 9) x + (6 + 2) -8x + 8 หรือแยกสี (สีน้ำเงิน) (8) จากแต่ละคำ: สี (สีน้ำเงิน) (8) (-x + 1) หรือสี (สีน้ำเงิน) (8) (1 - x) อ่านเพิ่มเติม »

10 "ft." xx1 "ft." ปล่อยให้ความยาวเป็นฟุต L และกว้างเป็นฟุตเราบอกสี (ขาว) ("XXX") L = 2W + 8 ดังนั้นพื้นที่ A คือสี (ขาว) ("XXX") A = LxxW = ( 2W + 8) * W = 2W ^ 2 + 8W แต่เรายังบอกด้วยว่าพื้นที่คือ 10 "ตารางฟุต" สี (ขาว) ("XXX") 2W ^ 2 + 8W = 10 สี (ขาว) ("XXX") W ^ 2 + 4W = 5 สี (ขาว) ("XXX") W ^ 2 + 4W-5 = 0 สี (ขาว) ("XXX") (W + 5) (W-1) = 0 W = -5color (ขาว) ("xxx") "หรือ" สี (ขาว) ("xxx") W = 1 A ความยาวเชิงลบเป็นไปไม่ได้ดังนั้นความเป็นไปได้ที่ถูกต้องเพียงอย่างเดียวคือ W = 1 และเนื่องจาก L = 2W + 8 อ่านเพิ่มเติม »

Y = 5 / 2x การเลือกคำว่า 'โดยตรง' เรามีสถานการณ์ y (สีขาว) (.) สีอัลฟา (สีขาว) (.) x โดยที่อัลฟาหมายถึงสัดส่วนกับให้ k เป็นค่าคงที่ของการเปลี่ยนแปลงที่ให้: y = kx k อนุญาตให้เราเปลี่ยนอัลฟ่าเป็นเครื่องหมายเท่ากับเรามี 'เงื่อนไขเริ่มต้น' ของ 'คู่ที่สั่ง' (x, y) -> (2,5) => "" y = kx "" -> "" 5 = k (2) k = 5/2 ให้ดังนั้น: y = 5 / 2x อ่านเพิ่มเติม »

ดูด้านล่าง ฉันไม่แน่ใจว่าฉันอ่านคำถามนี้ถูกต้องหรือไม่ การแปรผันโดยตรงแสดงเป็น: y = kx โดยที่ bbk คือค่าคงที่ของการเปลี่ยนแปลง เราได้รับคะแนน (2,5) ดังนั้น: 5 = k2 => k = 5/2 นี่จะเป็นฟังก์ชั่นที่ส่งผ่านจุดกำเนิดด้วยการไล่ระดับสี 5/2 y = 5 / 2x อ่านเพิ่มเติม »

เดลต้า = b ^ 2-4ac สำหรับขวานกำลังสอง ^ 2 + bx + c = 0 การจำแนกที่ระบุตามปกติโดยเดลต้าเป็นส่วนหนึ่งของสูตรสมการกำลังสองที่ใช้ในการแก้สมการระดับที่สอง ให้สมการปริญญาสองในรูปแบบทั่วไป: ax ^ 2 + bx + c = 0 การจำแนกคือ: Delta = b ^ 2-4ac discriminant สามารถใช้จำแนกลักษณะของการแก้สมการดังนี้: 1) สามเหลี่ยมสอง โซลูชั่นที่แท้จริงแยกต่างหาก 2) Delta = 0 สองวิธีแก้ปัญหาจริงที่เหมือนกัน (หรือหนึ่งรูทซ้ำ) 3) Delta <0 ไม่มีทางออกจริง ตัวอย่างเช่น: x ^ 2-x-2 = 0 โดยที่: a = 1, b = -1 และ c = -2 ดังนั้น: Delta = b ^ 2-4ac = 1 + 4 * 2 = 9> 0, ให้ 2 จริง โซลูชั่นที่แตกต่าง การแยกแยะสามารถมีประโยชน์เมื่อพยายามแยกคว ถ้าเดลต้าเป็นจำนวน อ่านเพิ่มเติม »

การเลือกปฏิบัติของสมการบอกธรรมชาติของรากของสมการกำลังสองระบุว่า a, b และ c เป็นจำนวนตรรกยะ D = 52 การเลือกปฏิบัติของสมการกำลังสอง ^ 2 + bx + c = 0 ได้รับจากสูตร b ^ 2 + 4ac ของสูตรสมการกำลังสอง; x = (-b + -sqrt {b ^ 2-4ac}) / (2a) discriminant จริง ๆ แล้วบอกคุณถึงลักษณะของรากของสมการกำลังสองหรือในคำอื่น ๆ จำนวนของ x-intercepts ที่เกี่ยวข้องกับสมการกำลังสอง . ตอนนี้เรามีสมการ 0 = 3x ^ 2 4x 3 3x ^ 2 4x 3 = 0 ตอนนี้เปรียบเทียบสมการข้างต้นกับสมการกำลังสองขวาน ^ 2 + bx + c = 0 เราได้ a = 3, b = -4 และ c = - 3 ดังนั้น discriminant (D) จึงถูกกำหนดโดย; D = b ^ 2-4ac => D = (-4) ^ 2 - 4 * 3 * (- 3) => D = 16 - (- 36) => อ่านเพิ่มเติม »

Discriminant (Delta) = 0 รับสมการปริญญาที่สองในรูปแบบทั่วไป: ax ^ 2 + bx + c = 0 discriminant คือ: Delta = b ^ 2-4ac ที่นี่ a = 1, b = 4 และ c = 4 ดังนั้น , เดลต้า = สี (แดง) 4 ^ 2-4color (แดง) ((1) (4)) เดลต้า = 16-16 เดลต้า = 0 ซึ่งหมายความว่าสมการที่ได้รับมีวิธีแก้ปัญหาจริงสองแบบร่วมกัน อ่านเพิ่มเติม »

ดูด้านล่างเรารู้สำหรับสมการของรูปแบบ ax ^ 2 + bx + c = 0 discriminant D เท่ากับ sqrt (b ^ 2-4ac) ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบสมการที่ได้รับกับรูปแบบมาตรฐานเราจะได้ D เป็น sqrt ({3} ^ 2-4xx {-20} {- 1}) ซึ่งในการลดความซับซ้อนทำให้เป็น sqrt (-71) ซึ่งเป็นจินตภาพ จำนวน. เมื่อใดก็ตามที่ D กลายเป็นน้อยกว่าศูนย์รากกลายเป็นจินตภาพ อ่านเพิ่มเติม »

Discriminant คือ -23 มันบอกคุณว่าไม่มีรากที่แท้จริงสำหรับสมการ แต่มีรากที่ซับซ้อนแยกกันสองแห่ง > ถ้าคุณมีสมการกำลังสองของรูปแบบ axe ^ 2 + bx + c = 0 คำตอบคือ x = (-b ± sqrt (b ^ 2-4ac)) / (2a) discriminant Δคือ b ^ 2 -4ac . การเลือกปฏิบัติ "discriminates" ธรรมชาติของราก มีสามความเป็นไปได้ ถ้าΔ> 0 มีรากที่แท้จริงสองแยก ถ้าΔ = 0 จะมีรากแท้สองอันเหมือนกัน ถ้าΔ <0 ไม่มีรากจริง แต่มีรากที่ซับซ้อนสองค่า สมการของคุณคือ 2x ^ 2 - 3x +4 = 0 Δ = b ^ 2 - 4ac = (-3) ^ 2 -4 × 2 × 4 = 9 - 32 = -23 สิ่งนี้บอกคุณว่าไม่มีรากจริง แต่ มีรากที่ซับซ้อนแยกกันสองแห่ง เราสามารถเห็นสิ่งนี้ถ้าเราแก้สมการ 2x ^ 2–3x + อ่านเพิ่มเติม »

สำหรับสมการกำลังสองนี้ Delta = -15 ซึ่งหมายความว่าสมการไม่มีวิธีแก้ปัญหาที่แท้จริง แต่มันมีสองซับซ้อนที่แตกต่างกัน รูปแบบทั่วไปสำหรับสมการกำลังสองคือ ax ^ 2 + bx + c = 0 รูปแบบทั่วไปของ discriminant ดูเหมือน Delta นี้ = b ^ 2 - 4 * a * c สมการของคุณดูเหมือน 2x ^ 2 + 5x + 5 = 0 ซึ่งหมายความว่าคุณมี {(a = 2), (b = 5), (c = 5):} discriminant จะเท่ากับ Delta = 5 ^ 2 - 4 * 2 * 5 Delta = 25 - 40 = color (green) (- 15) สองคำตอบสำหรับสมการกำลังสองทั่วไปคือ x_ (1,2) = (-b + - sqrt (Delta)) / (2a) เมื่อ Delta <0 เช่นคุณมีสมการ ถูกกล่าวว่าไม่มีวิธีแก้ปัญหาจริงเนื่องจากคุณกำลังแยกสแควร์รูทจากจำนวนลบ อย่างไรก็ตามมันมีโซลูชันที่ซับซ้ อ่านเพิ่มเติม »

ในสมการ axe ^ 2 + bx + c = 0, discriminant คือ b ^ 2-4ac เมื่อทำตารางให้สมบูรณ์มันจะเป็นไปได้ที่จะเห็นว่าคำตอบของสมการ: ax ^ 2 + bx + c = 0 นั้นเป็นรูปแบบ : x_1 = (- b + sqrt (b ^ 2-4ac)) / (2a) และ x_2 = (- b - sqrt (b ^ 2-4ac)) / (2a) ดังนั้นจะมีวิธีแก้ปัญหาในจำนวนจริง ( เมื่อเทียบกับจำนวนเชิงซ้อน) สแควร์รูท sqrt (b ^ 2-4ac ต้องเป็นจำนวนจริงดังนั้นเราจึงต้องการ b ^ 2-4ac> = 0 โดยสรุปแล้วจะต้องมีวิธีแก้ปัญหาที่แท้จริง discriminant b ^ 2 -4ac ของสมการต้องเป็นไปตาม b ^ 2-4ac> = 0 อ่านเพิ่มเติม »

Discriminant ของ 2x ^ 2-7x-4 = 0 คือ 81 และนี่หมายความว่ามี 2 วิธีแก้ปัญหาจริงสำหรับ x กับสมการนี้ discriminant สำหรับสมการกำลังสองในรูปแบบสี (สีขาว) ("XXXX") ax ^ 2 + bx + c = 0 คือสี (สีขาว) ("XXXX") Delta = b ^ 2-4ac Delta {(<0, "ไม่มีการแก้ปัญหาจริง"), (= 0, "แน่นอน 1 โซลูชันจริง"), (> 0, "2 โซลูชั่นจริง"):} สำหรับสมการที่กำหนด: 2x ^ 2-7x-4 = 0 Delta = (-7 ) ^ 2 - 4 (2) (- 4) สี (ขาว) ("XXXX") = 49 +32 สี (ขาว) ("XXXX") = 81 ซึ่งบอกเราว่ามี 2 โซลูชั่นจริง อ่านเพิ่มเติม »

แก้ปัญหา 2x ^ 2 + x - 1 = 0 D = d ^ 2 = b ^ 2 - 4ac = 1 + 8 = 9 -> d = + - 3 ซึ่งหมายความว่ามี 2 รากจริง (2 x-intercepts) x = -b / (2a) + - d / (2a) x = -1/4 + - 3/4 -> x = -1 และ x = 1/2 อ่านเพิ่มเติม »