พีชคณิต

จุดยอดอยู่ที่ (10, -16) แกนสมมาตรคือ x = 10 y = 8 (x-10) ^ 2 -16 เปรียบเทียบกับรูปแบบจุดสุดยอดมาตรฐานของสมการ y = a (x-h) ^ 2 + k; (h, k) เป็นจุดยอดเราพบที่นี่ h = 10, k = -16 ดังนั้นจุดยอดจึงอยู่ที่ (10, -16) แกนสมมาตรคือ x = h หรือ x = 10 กราฟ {8 (x-10) ^ 2-16 [-40, 40, -20, 20]} [ตอบ] อ่านเพิ่มเติม »

"จุดยอด" = (3,5) "แกนสมมาตรคือ" x = 3 สมการของรูปโค้งในสี (สีน้ำเงิน) "รูปแบบจุดสุดยอด" คือ สี (แดง) (แถบ (ul (| สี (ขาว) (2/2) สี (ดำ) (y = a (xh) ^ 2 + k) สี (ขาว) (2/2) |)))) ที่ไหน ( h, k) คือพิกัดของจุดยอดและ a คือค่าคงที่ y = 8 (x-3) ^ 2 + 5 "อยู่ในฟอร์มนี้" "กับ" h = 3 "และ" k = 5 rArrcolor (สีม่วงแดง) "จุดยอด" = (3,5) พาราโบลามีความสมมาตรเกี่ยวกับจุดยอด และแกนสมมาตรผ่านจุดสุดยอดในแนวตั้ง กราฟ {(y-8x ^ 2 + 48x-77) (y-1000x + 3000) = 0 [-16.02, 16.02, -8.01, 8.01]} rArcolor (magenta) "แกนสมมาตรมีสมการ" x = 3 อ่านเพิ่มเติม »

แกนสมมาตรคือ x = 3/2 จุดยอดคือ (3/2, -1 / 4) ป.ร. ให้ไว้: y = 9x ^ 2-27x + 20 เป็นสมการกำลังสองในรูปแบบมาตรฐาน: y = ax ^ 2 + bx + c โดยที่: a = 9, b = 027, c = 20 สูตรสำหรับแกนสมมาตรคือ : x = (- b) / (2a) x = (- (- 27)) / (2 * 9) x = 27/18 ลดขนาดโดยการหารเศษและส่วนด้วย 9. x = (27-: 9) / (18-: 9) x = 3/2 แกนสมมาตรคือ x = 3/2 นี่คือพิกัด x ของจุดสุดยอดด้วย ในการหาพิกัด y ของจุดยอดให้แทนที่ 3/2 สำหรับ x ในสมการแล้วแก้หา y y = 9 (3/2) ^ 2-27 (3/2) +20 y = 9 (9/4) -81 / 2 + 20 y = 81 / 4-81 / 2 + 20 ตัวหารร่วมที่น้อยที่สุดคือ 4 . ทวีคูณ 81/2 คูณ 2/2 และ 20 คูณ 4/4 เพื่อให้ได้เศษส่วนเท่ากันโดยมี 4 เป็นตัวส่วน ตั้งแต่ n / n = 1 ต อ่านเพิ่มเติม »

แกนสมมาตรคือ x = 0 (แกน y) และจุดยอดคือ (0,1) แกนสมมาตรของ (y-k) = a (x-h) ^ 2 คือ x-h = 0 และจุดยอดคือ (h, k) เมื่อ y = -x ^ 2 + 1 สามารถเขียนเป็น (y-1) = - 1 (x-0) ^ 2 ดังนั้นแกนสมมาตรคือ x-0 = 0 คือ x = 0 (แกน y) และจุดยอดคือ (0,1) กราฟ {-x ^ 2 + 1 [-10.29, 9.71, -6.44, 3.56]} หมายเหตุ: แกนสมมาตรของ (xh) = a (yk) ^ 2 คือ yk = 0 และจุดยอดคือ ( h, k) อ่านเพิ่มเติม »

แกนของสมมาตร: -5 Vertex: -5, -36 y = x ^ 2 + 10x-11 x ^ 2 = a (x ^ 2 = 1 ^ 2 = 1) 10x = b -11 = c (-b) / (2a) (-10) / (2 * 1) = (- 10) / 2 = -5 ขออภัยชนิดเลอะเทอะ เสียบแกนของสมมาตร (x) แล้วคุณจะได้รับ -36 (-5, -36) จะเป็นพิกัดนั้นและจุดยอดของกราฟ อ่านเพิ่มเติม »

จุดยอด = (5, -23), x = 5> รูปแบบมาตรฐานของสมการกำลังสองคือ y = ax ^ 2 + bx + c ฟังก์ชัน: y = x ^ 2-10x + 2 "อยู่ในรูปแบบนี้" โดยมี = 1, b = -10 และ c = 2 x-coord ของจุดยอด = -b / (2a) = - (- 10) / 2 = 5 ตอนนี้แทนที่ x = 5 เป็นสมการเพื่อให้ได้ y-coord y-coord ของจุดยอด = (5) ^ 2 - 10 (5) + 2 = 25-50 + 2 = -23 ดังนั้นจุดยอดจึง = (5, -23) แกนสมมาตรผ่านจุดยอดและขนานกับแกน y ที่มีสมการ x = 5 นี่คือกราฟของฟังก์ชันกับแกนสมมาตร กราฟ {(y-x ^ 2 + 10x-2) (0.001y-x + 5) = 0 [-50.63, 50.6, -25.3, 25.32]} อ่านเพิ่มเติม »

Vertex -> (x, y) = (6,32) แกนสมมาตรคือ: x = 6 ที่ให้: "" y = -x ^ 2 + 12x-4 คุณสามารถแก้ปัญหาแบบดั้งเดิมหรือใช้ 'เคล็ดลับ' เพียงเพื่อ ให้ความคิดกับคุณว่าเคล็ดลับนี้มีประโยชน์อย่างไร: โดยการเห็น: สี (สีน้ำตาล) ("แกนสมมาตรคือ" x = + 6) '~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ (สีฟ้า) ("กำหนดแกนสมมาตรและ" x _ ("จุดสุดยอด")) พิจารณารูปแบบมาตรฐานของ y = ax ^ 2 + bx + c เขียนเป็น: y = a (x ^ 2 + b / ax) + c ในกรณีของคุณ a = -1 ดังนั้นสี (สีน้ำตาล) (x _ ("จุดยอด") = (- 1/2) xx12 / (-1) = + 6) '~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ (สี ) ("กำหนด&qu อ่านเพิ่มเติม »

ดูคำอธิบายให้: "" y = x ^ 2-14x + 13 พิจารณา -14 จาก -14x ใช้: (-1/2) xx (-14) = + 7 จากนี้เรามี x _ ("จุดยอด") = +7 ดังนั้นแกนสมมาตรคือ x = 7 แทน 7 สำหรับ x ในสมการดั้งเดิมเพื่อหา y _ ("จุดยอด") = (7) ^ 2-14 (7) +13 ฉันจะให้คุณจบบิตนั้น! อ่านเพิ่มเติม »

รูปแบบจุดยอดของสมการกำลังสองเช่นนี้เขียน: f (x) = a (xh) ^ 2 + k ... ถ้าเราสามารถเขียนสมการเริ่มต้นในรูปแบบนี้พิกัดจุดสุดยอดสามารถอ่านได้โดยตรงเป็น (h, k) การแปลงสมการเริ่มต้นเป็นรูปแบบจุดสุดยอดจำเป็นต้องมีกลอุบาย "การทำตาราง" ให้น่าอับอาย หากคุณทำสิ่งเหล่านี้ได้เพียงพอคุณจะเริ่มเห็นรูปแบบ ตัวอย่างเช่น -16 คือ 2 * -8 และ -8 ^ 2 = 64 ดังนั้นหากคุณสามารถแปลงเป็นสมการที่ดูเหมือน x ^ 2 -16x + 64 คุณจะมีสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่สมบูรณ์ เราสามารถทำได้โดยใช้วิธีการเพิ่ม 6 และลบ 6 จากสมการเดิม y = x ^ 2 - 16x + 58 + 6 - 6 = x ^ 2 - 16x + 64 - 6 = (x - 8) ^ 2 - 6 ... และแบม เรามีสมการในรูปแบบจุดสุดยอด a = 1, h = 8, k = -6 พิกั อ่านเพิ่มเติม »

X = -1, (-1, -12) "สำหรับฟังก์ชันสมการกำลังสองมาตรฐาน" y = ax ^ 2 + bx + c "สมการของแกนสมมาตรคือ" x = -b / (2a) = x_ (color (red (แดง) ) "จุดสุดยอด") "สำหรับ" y = -x ^ 2-2x-13 "จากนั้น" a = -1, b = -2 "และ" c = -13 "สมการของแกนสมมาตร" = - (- 2) / (- 2) = - 1 rArr "แกนสมมาตร" x = -1 "แทนที่ค่านี้เป็นฟังก์ชันและประเมินค่า y" y_ (สี (แดง) "จุดยอด") = - (- 1) ^ 2-2 ( -1) -13 = -12 rArcolor (สีม่วงแดง) "จุดยอด" = (- 1, -12) อ่านเพิ่มเติม »

แกนสมมาตรคือ x = 0 จุดยอด (0, -2) กราฟของ y = x ^ 2 "มีความสมมาตรเกี่ยวกับแกน y" และมีจุดยอดที่จุดกำเนิด (0,0) ดังที่แสดงด้านล่าง กราฟ {x ^ 2 [-10, 10, -5, 5]} กราฟของ y = x ^ 2 - 2 "เป็นกราฟของ" y = x ^ 2 แต่แปลโดย ((0), (- 2) ) "ย้าย 2 หน่วยลงในแนวตั้ง" มันยังคงสมมาตรเกี่ยวกับแกน y ดังนั้นแกนของสมมาตรคือ x = 0 และจุดสุดยอดที่ (0, -2) ดังแสดงในกราฟ กราฟ {x ^ 2-2 [-10, 10, -5, 5]} อ่านเพิ่มเติม »

ใช่. 6 = 3 * 2 4 = 2 * 2 => 6/4 = 3/2 และ 9 = 3 * 3 6 = 3 * 2 => 9/6 = 3/2 ดังนั้น 6/4 = 9/6 อ่านเพิ่มเติม »

X = 1 "และ" (1, -16) ใช้วิธีการของสี (สีน้ำเงิน) "การเติมสี่เหลี่ยม" • "เพิ่ม" (1/2 "สัมประสิทธิ์ของเทอม x") ^ 2 "นั่นคือ" ((- 2) / 2) ^ 2 = 1 rArry = (x ^ 2-2xcolor (สีแดง) (+ 1)) สี (แดง) (- 1) -15 rArry = (x-1) ^ 2-16 สมการสี (สีน้ำเงิน) "รูปแบบจุดสุดยอด" คือ • y = a (x-h) ^ 2 + k โดยที่ (h, k) เป็นพิกัดของจุดยอด "here" h = 1 "และ" k = -16 rArr "vertex" = (1, -16) แกนสมมาตรผ่านจุดยอดและเป็นแนวตั้ง rArr "แกนสมมาตรคือ" x = 1 กราฟ {(y-x ^ 2 + 2x + 15) (y + 1000x-1000) = 0 [-65.85, 65.85, -32.8, 33.05]} อ่านเพิ่มเติม »

แกนสมมาตรคือ x = -1 และจุดยอดคือ (-1, -4) y = x ^ 2 + 2x-3 เขียนสมการในรูปแบบจุดยอด y = x ^ 2 + 2x + 1-4 = (x +1) ^ 2-4 เส้นสมมาตรคือเมื่อ (x + 1 = 0) และจุดยอดอยู่บนเส้นนั้น (-1, -4) ถ้าคุณยังไม่ได้เรียนแคลคูลัสลืมสิ่งที่ฉันเขียนภายใต้การแยกด้วยความเคารพ ถึง x dy / dx = 2x + 2 จุดยอดคือเมื่อ dy / dx = 0 2x + 2 = 0 => x = -1 และ y = (- 1) ^ 2 + (2 * -1) -3 = 1- 5 = -4 สร้างความแตกต่างอีกครั้ง (d ^ 2y) / dx ^ 2 = 2 (> 0) ดังนั้นเราจึงมีค่าต่ำสุดนี่คือกราฟของฟังก์ชั่นกราฟ {x ^ 2 + 2x-3 [-10, 10, - 5, 5]} อ่านเพิ่มเติม »

ดูคำอธิบาย ในการคำนวณจุดสุดยอดของพาราโบลาคุณใช้สูตรต่อไปนี้: p = (- b) / (2a) # และ q = (- Delta) / (4a) โดยที่ Delta = b ^ 2-4ac ที่นี่เรามี: p = ( -2) / 2 = -1 Delta = (2) ^ 2-4 * 1 * (- 5) = 4 + 20 = 24 q = -24 / 4 = -6 แกนของ symetry ของพาราโบลาคือ x = p . นี่คือ: x = -1 คำตอบ: จุดยอดคือ V = (- 1, -6) แกนของซิมโฟนี: x = -1 # อ่านเพิ่มเติม »

แกนสมมาตรคือ x = 1 จุดสุดยอดคือ (1, -6) ให้: y = x ^ 2-2x-5 เป็นสมการกำลังสองในรูปแบบมาตรฐาน: y = ax ^ 2 + bx + c, โดยที่: a = 1, b = -2, c = -5 แกนสมมาตร: แนวตั้ง บรรทัดที่แบ่งพาราโบลาออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน สำหรับสมการกำลังสองในรูปแบบมาตรฐานสูตรในการกำหนดแกนสมมาตรคือ: x = (- b) / (2a) เสียบค่าที่ทราบและแก้ปัญหา x = (- (- - 2)) / (2 * 1) x = 2/2 x = 1 แกนสมมาตรคือ x = 1 จุดยอด: จุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดของพาราโบลา ตั้งแต่> 0 จุดสุดยอดจะเป็นจุดต่ำสุดและพาราโบลาจะเปิดขึ้น แทน 1 สำหรับ x ในสมการและแก้หา y y = (1) ^ 2-2 (1) -5 y = 1-2-5 y = -6 จุดยอดคือ (1, -6) กราฟ {y = x ^ 2-2x-5 [-10.875, 11.625, -8.955, 2.295]} อ่านเพิ่มเติม »

แกนสมมาตรคือ x = -3 / 2 จุดยอดคือ = (- 3 / 2,17 / 4) เราใช้ ^ 2-2ab + b ^ 2 = (ab) ^ 2 เราทำตารางและตัวประกอบให้เสร็จ เพื่อหารูปแบบจุดสุดยอด y = -x ^ 2-3x + 2 y = - (x ^ 2 + 3x) +2 y = - (x ^ 2 + 3x + 9/4) + 2 + 9/4 y = - (x + 3 / 2) ^ 2 + 17/4 นี่คือรูปแบบจุดยอดของสมการ แกนสมมาตรคือ x = -3 / 2 จุดยอดคือ = (- 3 / 2,17 / 4) กราฟ {(y + (x + 3/2) ^ 2-17 / 4) ((x + 3/2 ) ^ 2 + (y-17/4) ^ 2-0.02) (y-1000 (x + 3/2)) = 0 [-11.25, 11.25, -5.625, 5.625]} อ่านเพิ่มเติม »

จุดสุดยอดที่ (-3 / 2, -29 / 4) แกนสมมาตรคือ x = -3/2 y = x ^ 2 + 3x-5 = (x + 3/2) ^ 2-9 / 4-5 = (x + 3/2) ^ 2-29 / 4: . เปรียบเทียบกับรูปแบบจุดยอดทั่วไปของสมการ y = a (xh) ^ 2 + k เราได้จุดยอดที่ (h, k) หรือ (-3 / 2, -29 / 4). สมมาตรของสมมาตรคือ x = -3/2 กราฟ {x ^ 2 + 3x-5 [-20, 20, -10, 10]} [ตอบ] อ่านเพิ่มเติม »

จุดยอดคือ (-3/2, -25/4) และเส้นสมมาตรคือ x = -3/2 y = x ^ 2 + 3x - 4 มีสองวิธีในการค้นหาจุดสุดยอด - ใช้ -b / (2a) หรือแปลงเป็นรูปแบบจุดสุดยอด ฉันจะแสดงมันทั้งสองวิธี วิธีที่ 1 (อาจเป็นวิธีที่ดีกว่า): x = -b / (2a) สมการนี้อยู่ในรูปสี่เหลี่ยมกำลังสองมาตรฐานหรือ ax ^ 2 + bx + c ที่นี่ a = 1, b = 3 และ c = -4 ในการค้นหาพิกัด x ของจุดยอดในรูปแบบมาตรฐานเราใช้ -b / (2a) ดังนั้น ... x_v = -3 / (2 (1)) x_v = -3/2 ทีนี้, เพื่อหาพิกัด y ของจุดสุดยอด, เราเสียบพิกัด x ของจุดยอดกลับเข้าไปในสมการ: y = (-3/2) ^ 2 + 3 (-3/2) - 4 y = 9/4 - 9/2 - 4 y = 9/4 - 18/4 - 16/4 y = -25/4 ดังนั้นพวกเรา จุดสุดยอดคือ (-3/2, -25/4) ถ้าคุณคิดเกี่ยวกับมั อ่านเพิ่มเติม »

จุดยอด (3/2, 23/4) แกนสมมาตร: x = 3/2 กำหนดรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสของรูป y = ax ^ 2 + bx + c จุดยอด (h, k) เป็นรูป h = -b / (2a) และ k ถูกพบโดยการแทนที่ h y = x ^ 2-3x + 8 ให้ h = - (- 3) / (2 * 1) = 3/2 ในการค้นหา k เราแทนค่านี้กลับมาใน: k = (3/2) ^ 2-3 (3/2) +8 = 9 / 4-9 / 2 + 8 = 23/4 จุดสุดยอดคือ (3/2, 23/4) แกนสมมาตรเป็นเส้นแนวตั้งผ่านจุดยอดดังนั้นในกรณีนี้คือ x = 3/2 อ่านเพิ่มเติม »

ไม่มีวิธีแก้ปัญหา x ^ 2 / (x ^ 2-4) = x / (x + 2) -2 / (2-x) กลายเป็น x ^ 2 / (x ^ 2-4) = x / (x + 2 ) + 2 / (x-2) ทางด้านขวาคูณและหารเศษส่วนแรกด้วย x-2 ทางด้านขวาคูณและหารส่วนที่สองด้วย x + 2 เราได้รับกลายเป็น x ^ 2 / (x ^ 2- 4) = (x (x-2)) / ((x + 2) (x-2)) + (2 (x + 2)) / ((x-2) (x + 2)) กลายเป็น x ^ 2 / (x ^ 2-4) = (x ^ 2-2x + 2x + 4) / (x ^ 2-4) กลายเป็น x ^ 2 / (x ^ 2-4) = (x ^ 2 + 4) / ( x ^ 2-4) กลายเป็น x ^ 2 = (x ^ 2 + 4) ไม่มีวิธีแก้ปัญหา อ่านเพิ่มเติม »

ฟังก์ชั่นนี้มีความสมมาตรเมื่อเทียบกับแกน y จุดสุดยอดคือ (0, -4) เราสามารถกำหนดฟังก์ชั่นเป็นคี่, คู่, หรือไม่เมื่อทดสอบสมมาตร หากฟังก์ชั่นนั้นแปลกฟังก์ชันจะมีความสมมาตรตามแหล่งกำเนิด ถ้าฟังก์ชั่นเป็นเลขคู่ฟังก์ชันจะสมมาตรตามแกน y ฟังก์ชั่นจะแปลกถ้า -f (x) = f (-x) ฟังก์ชั่นคือแม้ว่า f (-x) = f (x) เราลองแต่ละกรณี ถ้า x ^ 2-4 = f (x) ดังนั้น x ^ 2-4 = f (-x) และ -x ^ 2 + 4 = -f (x) ตั้งแต่ f (x) และ f (-x) คือ เรารู้ว่าฟังก์ชั่นนี้เท่ากัน ดังนั้นฟังก์ชั่นนี้มีความสมมาตรเมื่อเทียบกับแกน y ในการค้นหาจุดสุดยอดอันดับแรกเราพยายามที่จะดูว่าฟังก์ชั่นนี้มีรูปแบบอะไรเราเห็นว่ามันอยู่ในรูปแบบ y = a (x-h) ^ 2 + k ดังนั้นเราจึงรู้ว่าจุด อ่านเพิ่มเติม »

แกนสมมาตรคือ 0 Vertex คือ -4 y = x ^ 2 - 4 เป็นเพียง y = x ^ 2 แปล 4 หน่วยในทิศทาง -y แกนสมมาตรของ y = x ^ 2 คือ 0 ดังนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในแกนของสมมาตรเมื่อสิ่งนี้ถูกแปลในทิศทาง y เมื่อสมการกำลังสองจัดในรูปแบบ a (x - h) ^ 2 + ka คือสัมประสิทธิ์ของ x ^ 2, h คือแกนสมมาตรและ k คือค่าสูงสุดหรือต่ำสุดของฟังก์ชัน (นี่คือ y พิกัดของจุดสุดยอด) จากตัวอย่าง; y = x ^ 2 -4 จะเป็น (x - 0) ^ 2 - 4 ดูกราฟสำหรับการแปล: อ่านเพิ่มเติม »

X = 2 คือเส้นสมมาตร (2, -3) คือจุดสุดยอด ค้นหาแกนสมมาตรก่อนโดยใช้ x = (-b) / (2a) y = x ^ 2-4x + 1 x = (- (- (4)) / (2 (a)) = 4/2 = 2 จุดยอด อยู่บนเส้นสมมาตรดังนั้นเราจึงรู้ว่า x = 2 ใช้ค่าของ x เพื่อหา yy = (2) ^ 2 -4 (2) +1 y = 4-8 + 1 = -3 จุดยอดอยู่ที่ (2) , -3) คุณยังสามารถใช้วิธีการเติมสี่เหลี่ยมจัตุรัสเพื่อเขียนสมการในรูปแบบจุดยอด: y = a (x + b) ^ 2 + cy = x ^ 2 -4x สี (สีน้ำเงิน) (+ 4-4) +1 "" [สี (สีน้ำเงิน) (+ (b / 2) ^ 2- (b / 2) ^ 2)] y = (x-2) ^ 2 -3 จุดยอดอยู่ที่ (-b, c) = (2, -3) อ่านเพิ่มเติม »

แกนสมมาตร -> x = +2 "จุดยอด" -> (x, y) = (2, -16) สี (สีน้ำเงิน) ("ใช้การโกงนิดหน่อยเพื่อหา" x _ ("จุดสุดยอด")) ที่ได้รับ " "y = x ^ 2color (magenta) (- 4) x-12 ..................... สมการ (1) ul (" แกนสมมาตรคือ x ค่าของจุดสุดยอด ") สี (สีเขียว) (x _ (" จุดสุดยอด ") = (- 1/2) xx (สี (สีม่วงแดง) (- 4)) = +2) '.......... .................................................. ......................................... สี (น้ำตาล) ("หมายเหตุเกี่ยวกับ สิ่งที่ฉันเพิ่งทำไป: ") พิจารณารูปแบบมาตรฐาน y = ax ^ 2 + bx + c เขียนเป็น y = a (x ^ 2 + b / ax) + c จา อ่านเพิ่มเติม »

Vertex (2, -2) แกนสมมาตร x = 2 ได้รับ - y = x ^ 2-4x + 2 Vertex x = (- b) / (2a) = (- (- 4)) / (2xx1) = 4 / 2 = 2 ที่ x = 2; y = 2 ^ 2-4 (2) +2 y = 4-8 + 2 = -2 แกนจุดยอด (2, -2) ของสมมาตร x = 2 อ่านเพิ่มเติม »

แกนสมมาตร: x = 2 จุดยอด: (2, 8) สมการจะต้องอยู่ในรูปแบบทั่วไป f (x) = ขวาน ^ 2 + Bx + C แกนสมมาตรคือ x = -B / (2A) = 4/2 ดังนั้นแกนสมมาตร: x = 2 f (-B / (2A)) = f (2) = 2 ^ 2 -4 (2) + 12 = 8 จุดยอด: (2, 8) อ่านเพิ่มเติม »

จุดสุดยอด (-2, -2) แกนสมมาตร x = -2> เริ่มต้นด้วยสี (สีน้ำเงิน) "เติมสี่เหลี่ยม" ซึ่งทำได้โดยการเพิ่ม "(1/2 สัมประสิทธิ์ของเทอม x") "^ 2" นี่คือสัมประสิทธิ์ ของ x-term = 4 ดังนั้นเราต้องการ x ^ 2 + 4x + (2) ^ 2 +2 y = x ^ 2 + 4x + 4 + 2-4 = (x + 2) ^ 2-2 ต้องลบ 4 ตั้งแต่ ตอนนี้สมการในรูปของจุดยอดคือ y = a (xh) ^ 2 + k โดยที่ (h, k) คือจุดยอด rArr "จุดยอด" = (- 2, -2) "แกนของสมมาตรผ่าน ผ่านพิกัด x ของจุดสุดยอด rArr "สมการคือ x = -2" กราฟ {x ^ 2 + 4x + 2 [-10, 10, -5, 5]} อ่านเพิ่มเติม »

เราจะใช้นิพจน์เพื่อค้นหาจุดสุดยอดของพาราโบลา ก่อนอื่นให้เราวาดกราฟเส้นโค้ง: กราฟ {-x ^ 2 + 4x + 3 [-10, 10, -10, 10]} เส้นโค้งนี้เป็นรูปโค้งเนื่องจากรูปแบบของสมการ: y ~ x ^ 2 ในการหาจุดสุดยอดของพาราโบลา, (x_v, y_v) เราจะต้องแก้การแสดงออก: x_v = -b / {2a} โดยที่ a และ b เป็นสัมประสิทธิ์ของ x ^ 2 และ x ถ้าเราเขียนพาราโบลาตามนี้ : y = ax ^ 2 + bx + c ดังนั้นในกรณีของเรา: x_v = - 4 / {2 * (- 1)} = 2 นี่ทำให้แกนของพาราโบลา: x = 2 เป็นแกนสมมาตร ตอนนี้ให้เราคำนวณค่าของ y_v โดยการแทนที่ x_v บนนิพจน์พาราโบลา: y_v = - x_v ^ 2 + 4 x_v + 3 = - 2 ^ 2 +4 cdot 2 + 3 = 7 ดังนั้นจุดยอดจึงเป็น: (2,7) อ่านเพิ่มเติม »

Axis of Symmetry at: x = 2 จุดยอดที่: (2, -7) หมายเหตุ: ฉันจะใช้คำว่า Turning Point และ Vertex แทนกันได้เนื่องจากมันเป็นสิ่งเดียวกัน ก่อนอื่นเรามาดูจุดสุดยอดของฟังก์ชันพิจารณารูปแบบทั่วไปของฟังก์ชันพาราโบลา: y = ax ^ 2 + bx + c ถ้าเราเปรียบเทียบสมการที่คุณได้นำเสนอ: y = x ^ 2-4x-3 เราสามารถ เห็นว่า: ค่าสัมประสิทธิ์ x ^ 2 คือ 1; นี่ก็หมายความว่า a = 1 ค่าสัมประสิทธิ์ x คือ -4; นี่ก็หมายความว่า b = -4 เทอมคงที่คือ -3; นี่ก็หมายความว่า c = 3 ดังนั้นเราสามารถใช้สูตร: TP_x = -b / (2a) เพื่อกำหนดค่า x ของจุดยอด การแทนค่าที่เหมาะสมลงในสูตรที่เราได้รับ: TP_x = - (- 4 / (2 * 1)) = 4/2 = 2 ดังนั้นค่า x ของจุดยอดจึงมีอยู่ที่ x = 2 แท อ่านเพิ่มเติม »

Color (blue) ("Vertex" -> (x, y) -> (- 2,0) color (สีน้ำเงิน) ("Axis of symmetry" -> x = -2 พิจารณารูปแบบมาตรฐาน y = ax ^ 2 + bx + c เขียนนี่เป็น y = a (x ^ 2 + b / axe) + c แล้ว x _ ("จุดยอด") = "แกนสมมาตร" = (- 1/2) xxb / a ในกรณีนี้ a = 1 ดังนั้นสำหรับ y = x ^ 2 + 4x + 4 x _ ("จุดยอด") = (- 1/2) xx4 = -2 ดังนั้นโดยการแทนที่สำหรับ x y _ ("จุดยอด") = (- 2) ^ 2 + 4 (-2) +4 "" = "" 0 สี (สีน้ำเงิน) ("จุดยอด" -> (x, y) -> (- 2,0) สี (สีน้ำเงิน) ("แกนสมมาตร" -> x = -2 อ่านเพิ่มเติม »

แกนสมมาตร: x = 2 จุดยอด: {2,1} ลองเปลี่ยนฟังก์ชันนี้เป็นรูปแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสเต็มรูปแบบ: y = x ^ 2-4x + 5 = x ^ 2-4x + 4 + 1 = (x-2) ^ 2 + 1 เมื่อใช้สิ่งนี้เราสามารถแปลงกราฟของ y = x ^ 2 เป็น y = (x-2) ^ 2 + 1 โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้: ขั้นตอนที่ 1 จาก y = x ^ 2 เป็น y = (x-2 ) ^ 2 การแปลงนี้เลื่อนกราฟของ y = x ^ 2 (ด้วยแกนสมมาตรที่ x = 0 และจุดยอดที่ {0,0}) ไปทางขวาโดย 2 หน่วยแกนของสมมาตรจะถูกเลื่อนด้วย 2 หน่วยและตอนนี้จะอยู่ที่ x = 2 ตำแหน่งจุดสุดยอดใหม่คือ {2,0} ขั้นตอนที่ 2 จาก y = (x-2) ^ 2 ถึง y = (x-2) ^ 2 + 1 การแปลงนี้ทำให้กราฟของ y = (x-2) ^ 2 เพิ่มขึ้น 1 หน่วย แกนของความสมมาตรเป็นเส้นแนวตั้งจะถูกแปรสภาพเป็นของต อ่านเพิ่มเติม »

Aos = (-5) / 2 จุดสุดยอด: (-5 / 2, -73 / 4) ในรูปแบบ: y = ax ^ 2 + bx + c แกนสมมาตรคือ: aos = (-b) / 2 y = x ^ 2 + 5x - 12 aos = (-5) / 2 จุดสุดยอดคือ: (aos, f (aos)) = (-5/2, (f (-5/2)) y = (-5/2) ) ^ 2 + 5 (-5/2) - 12 = -73 / 4 จุดยอด: (-5 / 2, -73 / 4) กราฟ {y = x ^ 2 + 5x - 12 [-20.25, 19.75, -21.44 , -1.44]} อ่านเพิ่มเติม »

Vertex rArr (-5 / 2, -53 / 4) แกนของสมมาตร rArr x = -5 / 2 - วิธีที่ 1 - กราฟของ y = x ^ 2 + 5x-7 คือ - กราฟ {x ^ 2 + 5x-7 [-26.02, 25.3, -14.33, 11.34]} ตามกราฟด้านบนเราสามารถหาจุดยอดและแกนสมมาตรของกราฟด้านบน Vertex rArr (-5 / 2, -53 / 4) แกนของสมมาตร rArr x = -5 / 2 วิธี 2- ตรวจสอบอนุพันธ์ของฟังก์ชัน y = x ^ 2 + 5x-7 y '= dy / dx = 2x + 5 อนุพันธ์ของฟังก์ชันเป็นศูนย์ที่จุดสุดยอด y '= 2x + 5 = 0 x = -5 / 2 ใส่ x = -5 / 2 ในฟังก์ชันเพื่อรับค่าของฟังก์ชันที่ x = -5 / 2 y = 25 / 4-25 / 2-7 y = (25-50-28) / 4 y = -53/4 Vertex rArr (-5 / 2, -53 / 4) แกนของสมมาตร rArr x = -5 / 2 วิธี 3- ฟังก์ชันที่กำหนดเป็นฟังก์ชันกำลัง อ่านเพิ่มเติม »

แกนสมมาตร -> x = -3 จุดยอด -> (x, y) -> (-3, 4) พิจารณารูปแบบทั่วไป y = ax ^ 2 + bx + c เขียนรูปแบบทั่วไปเป็น y = a (x ^ 2 + b / ax) + c ในกรณีของคุณ a = 1 สี (สีน้ำเงิน) (x _ ("จุดยอด") = (- 1/2) xxb / a -> (-1/2) xx6 = -3) สี (สีน้ำเงิน ) ("แกนสมมาตร" -> x = -3) เพื่อหา y _ ("จุดสุดยอด") แทนที่ x = -3 ในสมการเดิม => y _ ("จุดยอด") = (- 3) ^ 2 + 6 (-3) +13 สี (สีน้ำเงิน) (=> y _ ("จุดสุดยอด") = + 4) สี (สีน้ำตาล) ("จุดยอด" -> (x, y) -> (- 3,4)) อ่านเพิ่มเติม »

Vetex อยู่ที่ (3, 7) และแกนสมมาตรคือ x = 3; y = -x ^ 2 + 6x-2 หรือ y = - (x ^ 2-6x) - 2 หรือ y = - (x ^ 2-6x + 3 ^ 2) +9 -2 หรือ y = - (x-3 ) ^ 2 + 7 นี่คือรูปแบบจุดยอดของสมการ y = a (x-h) ^ 2 + k; (h, k) เป็นจุดยอด h = 3, k = 7 ดังนั้น vetex อยู่ที่ (h, k) หรือ (3, 7) แกนสมมาตรคือ x = h หรือ x = 3; กราฟ {-x ^ 2 + 6x-2 [-20, 20, -10, 10]} [ตอบ] อ่านเพิ่มเติม »

X = 3, (3,5) "ให้สมการของพาราโบลาในรูปแบบมาตรฐาน" •สี (สีขาว) (x) y = ax ^ 2 + bx + c สี (สีขาว) (x); x! = 0 " พิกัด x ของจุดสุดยอดและแกนสมมาตรคือ "x_ (สี (สีแดง)" จุดยอด ") = - b / (2a) y = -x ^ 2 + 6x-4" อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน "" กับ "a = -1, b = 6, c = -4 rArrx_ (สี (แดง) "จุดยอด") = - 6 / (- 2) = 3 "แทนค่านี้เป็นสมการสำหรับพิกัด y" ที่สอดคล้องกัน "rArry_ ( color (red) "vertex") = - 9 + 18-4 = 5 rArrcolor (magenta) "จุดสุดยอด" = (3,5) "สมการของแกนสมมาตรคือ" x = 3 กราฟ {(y + x ^ 2- 6x + 4) (y-1000x + 3000) = 0 [-10, 10, อ่านเพิ่มเติม »

Vertex อยู่ที่ (3, -5), แกนสมมาตรคือ x = 3 y = x ^ 2 -6x + 4 หรือ y = x ^ 2 -6x +9 - 9+ 4 หรือ y = (x-3) ^ 2 -5 เมื่อเปรียบเทียบกับสมการรูปแบบจุดยอด y = a (xh) ^ 2 + k; (h, k) เป็นจุดยอดเราพบจุดยอดที่นี่ที่ h = 3, k = -5 หรือ (3, -5) แกนสมมาตรคือ x = 3 กราฟ {x ^ 2-6x + 4 [-10, 10, -5, 5]} [ตอบ] อ่านเพิ่มเติม »

X = 3 "และ" (3, -1)> "สมการของพาราโบลาใน" สี (สีน้ำเงิน) "รูปแบบจุดสุดยอด" คือ สี (แดง) (แถบ (ul (| สี (ขาว) (2/2) สี (ดำ) (y = a (xh) ^ 2 + k) สี (ขาว) (2/2) |)))) "ที่ไหน "(h, k)" เป็นพิกัดของจุดสุดยอดและ "" เป็นตัวคูณ "" โดยใช้วิธีการของ "สี (สีน้ำเงิน)" การเติมสี่เหลี่ยม "•" ให้แน่ใจว่าสัมประสิทธิ์ของ "x ^ 2" คำคือ 1 " • "เพิ่ม / ลบ" (1/2 "สัมประสิทธิ์ x- เทอม") ^ 2 "ถึง" x ^ 2-6x y = x ^ 2 + 2 (-3) xcolor (แดง) (+ 9) (แดง) ) (- 9) +8 สี (ขาว) (y) = (x-3) ^ 2-1larrcolor (สีแดง) "ในรู อ่านเพิ่มเติม »

2.4 4/10 = n / 6 คูณทั้งสองข้างด้วย 6, 6 * 4/10 = n n = 24/10 n = 2.4 อ่านเพิ่มเติม »

ดูสี explanantion (สีน้ำตาล) ("แกนของสมมาตรก็คือ" x _ ("จุดยอด")) สี (สีน้ำเงิน) (x _ ("จุดยอด") = (- 1/2) xx (-7) = +7/2) จุดสำคัญเกี่ยวกับ x จุดยอด y = ax ^ 2 + bx + c "" -> "" y = a (x ^ 2 + b / ax) + c x _ ("จุดยอด") = (-1/2) xx (b / a) ในกรณีของคุณสามารถพบการแทนที่ = 1 y _ ("จุดยอด") ได้ ฉันจะให้คุณทำอย่างนั้น อ่านเพิ่มเติม »

จุดยอดอยู่ที่ (4, -6) และแกนสมมาตรคือ x = 4 y = x ^ 2-8x + 10 หรือ y = (x-4) ^ 2 -16 + 10 หรือ y = (x-4) ^ 2-6 เปรียบเทียบกับรูปแบบจุดยอดของสมการ y = a (x-h) ^ 2 + k; (h, k) เป็นจุดยอดเราพบที่นี่ h = 4, k = -6 จุดยอดอยู่ที่ (4, -6) และแกนสมมาตรคือ x = 4 กราฟ {x ^ 2-8x + 10 [-20, 20, -10, 10]} [ตอบ] อ่านเพิ่มเติม »

X = -4 "และจุดสุดยอด" = (- 4, -4)> "ให้พาราโบลาในรูปแบบมาตรฐาน" สี (สีขาว) (x); ax ^ 2 + bx + c "จากนั้นพิกัด x ของจุดสุดยอดที่ ยังเป็นสมการของแกนสมมาตรคือ "สี (สีขาว) (x) x_ (สี (สีแดง)" จุดยอด ") = - b / (2a) y = x ^ 2 + 8x + 12" อยู่ใน รูปแบบมาตรฐาน "" กับ "a = 1, b = 8" และ "c = 12 rArrx _ (" จุดยอด ") = - 8 / (2) = - 4" แทนค่านี้เป็นสมการสำหรับ y "y _ (" จุดยอด " ) = (- 4) ^ 2 + 8 (-4) + 12 = -4 rArrcolor (magenta) "จุดยอด" = (- 4, -4) "แกนสมมาตรคือ" x = -4 กราฟ {(yx ^ 2 -8x-12) (y-1000x-4000) = 0 อ่านเพิ่มเติม »

แกนของสมมาตรคือ x = 4 จุดยอดคือ (4, -5) กราฟของ y = x ^ 2-8x + 11 โดยการเติมสี่เหลี่ยม y = x ^ 2-8x + 16-16 + 11 y = (x-4 ) ^ 2-5 y + 5 = (x-4) ^ 2 รูปแบบจุดยอด (xh) ^ 2 = 4p (yk) (x-4) ^ 2 = y - 5 โดยการตรวจสอบคุณจะสังเกตเห็นจุดยอดที่ ( h, k) = (4-5) และแกนสมมาตรเป็นเส้นแนวตั้ง x = 4 ขอให้พระเจ้าคุ้มครอง .... ฉันหวังว่าคำอธิบายจะมีประโยชน์ อ่านเพิ่มเติม »

Color (blue) ("Vertex" -> (x, y) -> (4, -13) color (blue) ("แกนสมมาตร" -> x = 4) รูปแบบมาตรฐาน: "" y = ax ^ 2 + bx + c เขียนเป็น: "" y = a (x ^ 2 + b / ax) + c ด้วยสมการกำลังสองแกนสมมาตรผ่าน x _ ("จุดสุดยอด") ในกรณีของคำถามนี้ a = 1 สี (สีน้ำเงิน ) (x _ ("จุดยอด") = (- 1/2) xxb / a "" -> (-1/2) xx (-8) = + 4) '~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ โดยการทดแทน: สี (สีฟ้า) (y _ ("จุดยอด") = (4) ^ 2- 8 (4) +3 = -13) '~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ~~~~ สี (สีน้ำเงิน) ("จุดยอด" -> (x อ่านเพิ่มเติม »

Color (blue) ("Axis of symmetry" -> x = 1/2) color (green) ("Vertex" -> "" (x, y) "" -> "" (1 / 2,12 1/4 ) มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคนที่จะแสดงวิธีการทำตารางให้เสร็จเพื่อแก้ไขบริบทนี้ในตอนแรกมันค่อนข้างสับสนดังนั้นฉันจะแสดงให้คุณเห็นบางสิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งของการทำตารางให้เป็นทางเลือก "y = -x ^ 2 + x + 12 '~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ เปรียบเทียบกับ y = ax ^ 2 + bx + c เขียนใหม่เป็น: "" a (x ^ 2 + b / ax) + c จากนั้นคุณมี: "" x _ ("จุดยอด") = (- 1/2) xxb / a '~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ในกรณีของคุณ a = อ่านเพิ่มเติม »

แกนสมมาตร: x = -0.5 จุดยอด: (-0.5,9.75) การแยกตัวประกอบเพื่อหาราก: - (x ^ 2 + x-9) (ฉันเอา -1 ออกมาเพราะฉันพบว่ามันง่ายกว่าที่จะแยกตัวประกอบ สิ่งต่าง ๆ เกิดความสับสน) - (x + 5) (x-4) x = -5, x = 4 ครึ่งทางระหว่างจุดเหล่านี้คือแกนสมมาตรและจุดยอด ระยะทางรวมระหว่างจุด: 9 ครึ่งที่: 4.5 ดังนั้นแกนสมมาตรอยู่ที่ x = (- 5 + 4.5) = -0.5 ทีนี้เราก็รู้ค่า x ของจุดยอด: -0.5 การแทนค่ากลับเข้าไปในสมการดั้งเดิมจะให้ค่า y: - (- 0.5) ^ 2 - (- 0.5) + 9 = y 0.5 ^ 2 + 0.5 + 9 = y 0.25 + 0.5 + 9 = yy = 9.75 ดังนั้นจุดยอดที่ (-1/2, 9.75) กราฟ {-x ^ 2-x + 9 [-7, 7, -15, 10]} อ่านเพิ่มเติม »

แกนสมมาตรคือ x = h = 3 จุดยอดคือ (3, -25) y = (x-3) ^ 2-25 อยู่ในรูปของจุดยอด: y = a (xh) ^ 2 + k โดยที่ = 1, h = 3, และ k = -25 แกนสมมาตรเท่ากับ h ซึ่งก็คือ x บนกราฟ จุดยอดคือ (h, k) ซึ่งก็คือ (3, -25) กราฟ {y = (x-3) ^ 2-25 [-16.82, 15.22, -31.34, -15.32]} อ่านเพิ่มเติม »

X = 3 สมการเขียนในรูปแบบ ax ^ 2 + bx + c อย่างที่คุณเห็น a = 1, b = -6 และ c = 2 แกนสมมาตรทำงานโดย x = (- b) / (2a) (- (- - 6)) / (2 (1) = 6/2 = 3 แทนที่ค่านี้ของ x กลับเป็นสมการเพื่อหาพิกัด y y = (3) ^ 2 -6 (3) + 2 y = 9 -18 + 2 y = -7 ดังนั้นจุดยอดของเส้นอยู่ที่ (3, -7) อ่านเพิ่มเติม »

X = -4> "แกนสมมาตรผ่านจุดสุดยอดและมี" "สมการ" •สี (ขาว) (x) x = c "โดยที่ c คือค่าของพิกัด x ของจุดยอด" "สำหรับพาราโบลา ในรูปแบบมาตรฐาน "axe ^ 2 + bx + c x_ (สี (แดง)" จุดยอด ") = - b / (2a) y = -x ^ 2-8x + 10" อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน "" กับ "a = - 1, b = -8, c = 10 rArrx_ (สี (แดง) "จุดยอด") = - (- 8) / (- 2) = - 4 rArr "แกนสมมาตรคือ" x = -4 กราฟ {(y + x ^ 2 + 8x-10) (y-1000x-4000) = 0 [-80, 80, -40, 40]} อ่านเพิ่มเติม »

X = 3 รูปร่างของพาราโบลามีความสมมาตร ดังนั้น 'แกนสมมาตร' จึงอยู่ตรงกลาง ดังนั้นชื่อของมัน ดังนั้นถ้ามันอยู่ตรงกลางของรูปร่างแล้วมันจะต้องอยู่ตรงกลางของจุดตัดแกน x กล่าวอีกนัยหนึ่ง; มันคือค่าเฉลี่ย (เฉลี่ย) ของ x = 1 "และ" x = 5 ดังนั้นแกนถ้าสมมาตรคือ "" x = (5 + 1) / 2 = 3 อ่านเพิ่มเติม »

สมการที่เราได้รับนั้นอยู่ในรูปแบบมาตรฐาน y = ax ^ 2 + bx + c โดยที่ = 3, b = 6 และ c = 4 แกนของสมมาตรได้รับจากสูตร x = -b / (2a) x = -6 / (2 * 3) x = -6/6 = -1 สี (สีเขียว) (x = -1 คือแกนของสมมาตรของ Parabola ด้วยสมการ y = 3x3 ^ 2 + 6x + 4 อ่านเพิ่มเติม »

A = 11, b = 66 คุณควรตั้งสมการสองแบบ หมายเลขที่สองของสองคือ 6 ครั้งแรก ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องคูณจำนวนแรกด้วย 6 เพื่อให้ได้ตัวเลขที่สอง => 6a = b ผลรวมคือ 77 => a + b = 77 คุณต้องการตั้งค่าสมการให้เท่ากันดังนั้นลบ a จากทั้งสองด้าน: => b = 77-a ทีนี้ให้พวกมันเท่ากัน: => 6a = 77-a เพิ่ม a ไปทั้งสองข้าง: => 7a = 77 หารด้วย 7 => a = 11 ทีนี้เสียบนี่เข้ากับสมการแรก: => 6 (11) = b -> 66 = b ดังนั้น a = 11 และ b = 66 อ่านเพิ่มเติม »

รับ y = 7 (x + 1) (x-3) โปรดทราบว่านี่คือพาราโบลาในตำแหน่งมาตรฐาน (แกนแนวตั้งของสมมาตร) แกนสมมาตรผ่านจุดสุดยอด วิธีหนึ่งในการกำหนดจุดสุดยอดโดยการสังเกตว่าอนุพันธ์ของฟังก์ชันเท่ากับศูนย์ที่จุดยอด y = 7 (x + 1) (x-3) = 7x ^ 2-14x-21 (dy) / (dx) = 14x-14 ถ้า (dy) / (dx) = 0 rarr x = 1 (ตอนนี้เราสามารถคำนวณค่าของ y ที่จุดยอดได้ แต่เราไม่ต้องการจริงๆเพราะเรากำลังมองหาเส้นแนวตั้งที่ผ่าน x = 1 แกนสมมาตรคือ x = 1 อีกวิธีหนึ่ง: ในพาราโบลาของแบบนี้คุณยังสามารถหาจุดกึ่งกลางระหว่างจุดสองจุดที่เส้นโค้งผ่านแกน x ในขณะที่คุณจะเห็น y = 0-> x = -1orx = + 3. x = 1 ครึ่งทางคำตอบเดียวกันใช้งานน้อยลง แต่วิธีนี้ไม่สามารถใช้งานได้เสมอ อ่านเพิ่มเติม »

X = 3/2 หรือ 1.5 เพื่อหาแกนสมมาตรของสมการกำลังสองมาตรฐาน (y = ax ^ 2 + bx + c) เราใช้สูตร x = (-b) / (2a) เรารู้ว่า a = 1 และ b = -3 ดังนั้นลองเสียบมันเข้ากับสูตร: x = (- (- (3)) / (2 (1)) = 3/2 เนื่องจากแกนสมมาตรเป็นเส้นมัน คือ x = 3/2 หรือ 1.5 หวังว่านี่จะช่วยได้! อ่านเพิ่มเติม »

แกนสมมาตรคือ y + 1 = 0 ถ้าสมการของพาราโบลาเป็นรูปแบบ y = a (xh) ^ 2 + k, แกนสมมาตรคือ xh = 0 หรือ x = h และถ้าสมการของพาราโบลาเป็นรูปแบบ x = a (yk) ^ 2 + h, แกนสมมาตรคือ yk = 0 หรือ y = k เราสามารถเขียน x-4 = 1/4 (y + 1) ^ 2 เช่น x = 1/4 (y + 1) ^ 2 + 4 และแกนสมมาตรคือ y + 1 = 0 อ่านเพิ่มเติม »

X = 4 คือเส้นสมมาตร วิธีที่เร็วและง่ายที่สุดคือใช้สูตรที่ทำสิ่งนี้ โปรดทราบว่ากราฟที่ให้นั้นมีไว้สำหรับพาราโบลา (มันมีเทอม x ^ 2) รูปแบบทั่วไปของและสมการของพาราโบลาคือ: y = ax ^ 2 + bx + c แกนสมมาตรจึงเป็นเส้นแนวตั้งผ่านแม้ว่าจุดหักเห เส้นแนวตั้งทั้งหมดมีสมการ "" x = "a number" x = (-b) / (2a) ให้เส้นสมมาตร ดังนั้นสำหรับพาราโบลา y = -x ^ 2 + 8x-7 x = (-8) / (2 (-1)) "=" 4 คือเส้นสมมาตร อีกวิธีคือการหาจุดตัด x โดยการแก้สมการ -x ^ 2 + 8x-7 = 0 แล้วหาค่าเฉลี่ยของค่า x สองค่า นี่จะให้ค่าของเส้นสมมาตร อ่านเพิ่มเติม »

"ยอดคงเหลือหลังจาก 7 ปี" = $ 1543.60 ถึง 2 ตำแหน่งทศนิยมปล่อยให้ผลรวมหลักเป็น P ปล่อยให้จำนวนปีเป็นสี n (สีแดง) ("สมมติฐาน: 6.25% เป็นอัตราประจำปี (ไม่ระบุ)") หากทบต้นที่ ในตอนท้ายของแต่ละปีเราจะมี: P (1 + 6.25 / 100) ^ n แต่มันจะรวมกันทุกไตรมาส มี 4 ส่วนใน 1 ได้ยินดังนั้นเราจึงมี: P (1 + 6.25 / (4xx100)) ^ (4xxn) P (1 + 6.25 / 400) ^ (4n) ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ระบุว่า P = $ 1,000 "และ" n = 7 เรามี: 1,000 (1 + 6.25 / 400) ^ 28 = $ 1543.59980 ... "balance" = $ 1543.60 ถึงทศนิยม 2 ตำแหน่ง อ่านเพิ่มเติม »

ดูคำอธิบายพิจารณา y = x จำนวนของ x คือ 1 ดังนั้นแม้ว่ามันจะไม่ได้แสดงให้เห็นตามปกติเรามี y = + 1x จำนวนนี้ 1 คือความชัน (การไล่ระดับสี) ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง 1 สำหรับการอ่านจากซ้ายไปขวา บนแกน x เมื่อตำแหน่งแนวตั้งเพิ่มขึ้น (ทิศทางเป็นบวก) ความลาดเอียงจะเพิ่มขึ้นพิจารณา y = -x -> y = -1x ในกรณีนี้ตำแหน่งแนวตั้งจะลดลง (ทิศทางลบ) ความชันลดลง อ่านเพิ่มเติม »

D: (-oo, oo) R: [-5, oo) Quadratics มีสองรูปแบบ: f (x) = ax ^ 2 + bx + c สี (สีน้ำเงิน) ("รูปแบบมาตรฐาน") f (x) = a (xh) ^ 2 + k สี (สีน้ำเงิน) ("รูปแบบจุดสุดยอด") แน่นอนเราจะไม่สนใจ "รูปแบบมาตรฐาน" สำหรับปัญหานี้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องรู้ทั้งสองอย่าง เนื่องจากสมการของเราอยู่ในรูปแบบ "จุดสุดยอด" เราได้รับ "จุดสุดยอด" โดยไม่ต้องแก้มัน: "จุดยอด:" (-h, k) อย่าลืมว่าจุดยอดเริ่มต้นคือ -h, ไม่ ลืมลบ! ลองย้อนกลับไปดูสมการดั้งเดิมของเรา: f (x) = (xcolor (แดง) (+ 7)) ^ 2color (แดง) ("" - 5) ลองเสียบค่า h และ k ของเราลงใน "จุดยอด:" ( -h, k) ((-) + 7, -5) สี อ่านเพิ่มเติม »

รวมเป็น 4 และ 1/4 ปอนด์ของเนื้อเรา: (1 +7/8) + (1 + 1/2) + (7/8) ปอนด์เนื้อแปลงเศษส่วนทั้งหมดให้มีส่วน 8. rArr (8 / 8 + 7/8) + (8/8 + 4/8) + (7/8) ตอนนี้มันง่ายที่จะรวมเข้าด้วยกัน rArr (15/8) + (12/8) + (7/8) rArr34 / 8 = 17/4 = (16/4 + 1/4) = 4 + 1/4 ดังนั้นทั้งหมดคือ 4 และ 1/4 เนื้อปอนด์ อ่านเพิ่มเติม »

ฉันขอแนะนำวิธีของนิวตัน แต่ฉันไม่ได้เตรียมที่จะอ้างว่าง่ายกว่าเดาและตรวจสอบจากนั้นปรับการเดา วิธีการของนิวตันเป็นวิธีการวนซ้ำโดยประมาณ (มันใช้งานได้เพราะแคลคูลัส แต่คำถามนี้ถูกโพสต์ในพีชคณิตดังนั้นเราจะปล่อยให้อยู่คนเดียว) สร้างการประมาณแรก ในตัวอย่างของคุณให้พูด x_1 = 3 การประมาณถัดไปคือ: x_2 = 1/2 (13 / x_1 + x_1) ในคำอื่น ๆ หาร 13 ด้วยการประมาณปัจจุบันและค่าเฉลี่ยที่มีการประมาณครั้งล่าสุดของคุณ รู้ว่า x_n เราพบ x_ (n + 1) โดย: x_ (n + 1) = 1/2 (13 / x_n + x_n) เราจึงได้: x_1 = 3 เพื่อหา x_2: 13/3 = 4.33 ค่าเฉลี่ยของเรา การประมาณปัจจุบัน, 3 และผลหาร 4.33 คือ 3.67 ดังนั้น x_2 = 3.67 เพื่อหา x_3: 13 / 3.67 = 3.54 ค่าเฉลี่ย อ่านเพิ่มเติม »

ฉันเชื่อว่าสิ่งนี้ควรทำให้ง่ายขึ้นเป็น (- (8sqrt2 + 1)) / 127 ในการหาเหตุผลเข้าข้างตัวส่วนคุณจะต้องคูณคำที่มี sqrt ด้วยตัวเองเพื่อย้ายมันไปที่เศษ ดังนั้น: => 1 / (1-8 * sqrt2) * 8sqrt2 สิ่งนี้จะให้: => (8sqrt2 + 1) / (1- (8sqrt2) ^ 2 (8sqrt2) ^ 2 = 64 * 2 = 128 => (8sqrt2 +1) / (1-128) => (8sqrt2 + 1) / - 127 ลูกเบี้ยวเชิงลบก็ถูกย้ายไปด้านบนด้วยเช่น: => (- (8sqrt2 + 1)) / 127 อ่านเพิ่มเติม »

ดูคำแนะนำสองสามข้อด้านล่าง: มีคำตอบสองสามข้อที่นี่ มันเป็นสมการเดียวกัน แต่ในรูปแบบที่แตกต่างกันถ้าฉันวาดกราฟ y = x จากนั้นฉันเล่นด้วยสมการไม่เปลี่ยนโดเมนหรือช่วงฉันสามารถมีความสัมพันธ์พื้นฐานเดียวกัน แต่มีลักษณะที่แตกต่าง: กราฟ {x} 2 (y -3) = 2 (x-3) กราฟ {2 (y-3) -2 (x-3) = 0} กราฟนั้นแตกต่างกัน แต่ grapher ไม่แสดงให้เห็นวิธีหนึ่งที่สิ่งนี้สามารถปรากฏขึ้นคือมีขนาดเล็ก หลุมหรือความไม่ต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่นหากเราใช้กราฟเดียวกันของ y = x และวางลงในหลุมที่ x = 1 กราฟจะไม่แสดง: y = (x) ((x-1) / (x-1) กราฟ {x ((x-1) / (x-1))} ก่อนอื่นเรามารับทราบว่ามีรูที่ x = 1 - ตัวส่วนไม่ได้กำหนดไว้ แล้วทำไมไม่มีรู? เหตุผลก็คือรูนั้นอยู่ที่ อ่านเพิ่มเติม »

M + c = 2c + c = 66 ดังนั้น c = 22 ไมล์ให้ m เป็นระยะทางของมาร์กอส c เป็นของ Candice m = 2c m + c = 66 2c + c = 66 3c = 66 c = 22 22 ไมล์ อ่านเพิ่มเติม »

การใช้ค่าขายเฉลี่ย $ 2,400 พื้นฐาน + 3% การมอบหมายเป็นข้อตกลงที่ดีกว่าเนื่องจากตัวเลขการขายไม่ได้กำหนดไว้ที่ค่าเดียวให้ใช้ค่าเฉลี่ย (ค่าเฉลี่ย): ในสถิติการใช้สัญลักษณ์นี้เป็นดังนี้: วางเครื่องหมาย $ ตอนนี้ให้ค่าการขายเป็น x จากนั้นค่าการขายเฉลี่ยคือ: barx => barx = (5,000 + 10,000) / 2 = 7500 ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ ~~~~~~~~~~~~~~~~~ สี (สีฟ้า) ("ตัวเลือก 1 - พื้นฐาน $ 1,500 + ค่าคอมมิชชั่น 5.5%") 1500 + 5.5 / 100xx7500 = 1912.50 ....... ......................................... สี (สีน้ำเงิน) ("ตัวเลือก 2 - $ 2400 พื้นฐานคอมมิชชั่น + 3% ") 2400 + 3 / 100xx7500 = 2625.00 ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ อ่านเพิ่มเติม »

X = 1.20 y = 2.50 "กระบวนการแก้ไข:" ให้: x = "ราคาของโน้ตบุ๊ก" y = "ราคาของกล่องสีเทียน" ตอนนี้กำหนดสมการที่อ้างอิงการซื้อของพวกเขา; นั่นคือสี (แดง) ("Marcus": 5x + 10y = 31-> eq.1 color (สีน้ำเงิน) ("Nina": 10x + 5y = 24.50-> eq.2 จากนั้นแก้ไขสมการพร้อมกันดังนี้: คูณ eq.1 ด้วย 2 เพื่อกำจัดคำที่มีตัวแปร x ในสมการทั้งสอง eq.1-> color (แดง) (5x + 10y = 31)} -2 eq.2-> color (blue) (10x + 5y = 24.5 "เพื่อให้ eq.1 กลายเป็น" eq.1-> color (สีแดง) (ยกเลิก (-10x) -20y = -64 eq.2-> color (สีฟ้า) (ยกเลิก (10x) + 5y = 24.5 จากนั้นค้นหา ความแตกต่างของคำที่เหล อ่านเพิ่มเติม »

ดูคำอธิบาย หากหมายเลขเริ่มต้นคือ x สามารถอธิบายขั้นตอนได้ดังต่อไปนี้: ฉันขั้นตอนเพิ่มขึ้น 20%: จำนวนกลายเป็น x + 20% x = x + 0.2x = 1.2x II ขั้นตอนลดจำนวนใหม่ลง 20%: 1.2x -20% * 1.2x = 1.2x-0.2 * 1.2x = 1.2x-0.24x = 0.96x จำนวนสุดท้ายคือ 0.96x ดังนั้นมันจึงน้อยกว่าจำนวนเดิม x คำอธิบายนี้พิสูจน์ว่าคำสั่งนั้นถูกต้อง อ่านเพิ่มเติม »

Marcy มี 27/4 เขียนระบบสมการ ให้ x เป็นจำนวนไตรมาสและ y เป็นจำนวนสลึง x + y = 100 0.25x + 0.10y = 14.05 แก้ไขโดยการแทนที่: y = 100 - x: .0.25x + 0.10 (100 - x) = 14.05 0.25x + 10 - 0.10x = 14.05 0.15x + 10 = 14.05 0.15 x = 4.05 x = 27 แก้หา y แล้ว: y + 27 = 100 y = 100 - 27 y = 73 ดังนั้น Marcy จึงมี 27 ส่วนและ 73 # สลึง หวังว่านี่จะช่วยได้! อ่านเพิ่มเติม »

ไตรมาส 80, ครึ่งดอลลาร์ 110 สมมติว่าไตรมาสนั้นเป็นตัวเลข x และตัวเลขดอลลาร์ 190-x มูลค่าของเหรียญเหล่านี้จะเท่ากับ x / 4 + (190-x) / 2 ดอลลาร์ ดังนั้น x / 4 + (190-x) / 2 = 72.50 ทีนี้คูณสมการนี้ด้วย 4 เพื่อรับ x + 2 (190-x) = 300 -x + 380 = 300 x = 380-300 = 80 ดังนั้นไตรมาสคือ 80 และครึ่งดอลลาร์จะเท่ากับ 110 อ่านเพิ่มเติม »

อายุของมาร์จคือ 18 ปีอายุของ Consuelo คือ 9 ปีให้อายุของมาร์จเป็น m และอายุของคอนซูโลจะได้รับ m = 2c 7 ปีที่ผ่านมาอายุของมาร์จคือ m-7 7 ปีที่แล้วอายุของ Consuelo คือ c-7 ดังนั้นเราจึงสามารถ เขียน m-7 + c-7 = 13 หรือ m + c-14 = 13 หรือ m + c = 13 +14 หรือ m + c = 27 โดยการเสียบค่า m = 2c เราได้ 2c + c = 27 หรือ 3c = 27 หรือ c = 27/3 หรือ c = 9 ดังนั้นอายุของ Consuelo คือ 9 ปี m = 2c = 2times9 = 18 และอายุของ Marge คือ 18 ปี อ่านเพิ่มเติม »

30 กระเบื้องต้องซื้อในราคาเดียวกันทั้งสองร้าน ให้ x เป็นจำนวนไพ่ที่ซื้อในราคาเดียวกันทั้งสองร้าน : 18 + 0.69 * n = 1.29 * n: 1.29n -0.69 n = 18 หรือ 0.6n = 18: n = 18 / 0.6 = 30 ดังนั้น 30 กระเบื้องจำเป็นต้องซื้อในราคาเดียวกันทั้งสองร้าน [ตอบ] อ่านเพิ่มเติม »

ประมาณ 7 2/3 ชั่วโมงหรือ 7 ชั่วโมง 40 นาทีพิจารณาว่างานแต่ละงานจะเสร็จสมบูรณ์ในหนึ่งชั่วโมง: Maria จะเสร็จ 1/14 ของคำสั่งในหนึ่งชั่วโมง จิมจะทำคำสั่งให้เสร็จสมบูรณ์ 1/17 ในหนึ่งชั่วโมง ดังนั้นหากพวกเขาทำงานร่วมกันหลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง: 1/14 + 1/17 ของการสั่งซื้อจะเสร็จสมบูรณ์ = (17 + 14) / (14xx17) = 31/238 เพื่อทำภารกิจทั้งหมดให้เสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดหรือ 1 หรือ 238/238 จะใช้เวลา: 238/238 div 31/238 = 1 xx 238/31 = 7 21/31 ชั่วโมง = 7 ชั่วโมงและ 40.6 นาที อ่านเพิ่มเติม »

ดูกระบวนการแก้ปัญหาด้านล่าง: เรียกจำนวนกล่องที่มาเรียเริ่มต้นด้วย: b จากนั้นเราสามารถเขียนได้: 22 = (b + 7) / 2 โดยที่: 22 คือจำนวนกล่องที่มาเรียได้ทิ้งไว้ (b + 7) คือจำนวนกล่องที่มาเรียเริ่มต้นด้วยบวก 7 ที่เธอซื้อการหารด้วย 2 หมายถึง 1/2 ของกล่องทั้งหมดที่มาเรียถูกทำลายด้วยไฟ เราสามารถแก้ปัญหานี้ได้โดยการคูณแต่ละด้านของสมการด้วยสี (แดง) (2) เพื่อกำจัดเศษส่วนในขณะที่รักษาสมการสมดุล: สี (แดง) (2) xx 22 = สี (แดง) (2) xx (b) + 7) / 2 44 = ยกเลิก (สี (สีแดง) (2)) xx (b + 7) / สี (สีแดง) (ยกเลิก (สี (สีดำ) (2))) 44 = b + 7 ตอนนี้ลบสี ( สีแดง) (7) จากแต่ละด้านของสมการเพื่อแก้หา b ในขณะที่รักษาสมการสมดุล: 44 - สี (สีแดง) (7) = b อ่านเพิ่มเติม »

$ 11.25 1 ชั่วโมง = 60 นาที + 15 = 75 นาที: .1 นาที. = $ 0.15: .75min. = 0.15xx75 = $ 11.25 อ่านเพิ่มเติม »

7 ความฝันทั้งหมด: 28 ความฝันไร้สัตว์: 4 ดังนั้น: 28-4 = 24 ความฝันกับสัตว์ Monkey เกี่ยวข้องกับความฝัน: 16 Squirrels เกี่ยวข้องกับความฝัน: 15 ทีนี้คำถามคือ: อย่างน้อยกี่ความฝันที่เกี่ยวข้องกับทั้งลิงและกระรอก เนื่องจากเรามีความฝันทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ 24; ความฝันของลิง 16 และความฝันของกระรอก 15 ซึ่งทำให้ทั้งหมด 31 เราจะเห็นว่าจาก 24 ความฝัน 31 รวมสัตว์ (ลิงและ / หรือกระรอก) จากนี้สามารถสรุปได้ว่ามีความฝันถึง 24 ครั้งถูกใช้เป็นลิงหรือกระรอก แต่ความฝันที่เหลือนั้นถูกนำไปใช้กับทั้งลิงและกระรอก ทางคณิตศาสตร์: 31-24 = 7 7 ความฝันรวมทั้งลิงและกระรอก อ่านเพิ่มเติม »

อัตรา = 3.97% ถ้าดอกเบี้ยง่ายและอัตรา = 3.59% ถ้าดอกเบี้ยทบต้น เราจำเป็นต้องรู้ว่ามันเป็นการลงทุนที่ง่ายหรือน่าสนใจ ถ้าสนใจง่าย: SI = (PRT) / 100 125 = (450 xxR xx 7) / 100 R = (125 xx100) / (450xx7) R = 3.97% ถ้าดอกเบี้ย COMPOUND จำนวนหลังจาก 7 ปี = 450 + 126 = 576 A = P (1 + R / 100) ^ n 576 = 450 (1 + R / 100) ^ 7 576/450 = (1 + R / 100) ^ 7 1.28 = (1 + R / 100) ^ 7 ราก (7 ) 1.28 = (1 + R / 100) 1.0359 -1 = R / 100 3.59 = R อ่านเพิ่มเติม »

เหรียญ 11 ควอเตอร์และเหรียญนิกเกิล 14 อันอยู่ในกระเป๋า มูลค่าของเหรียญนิกเกิล 1 เหรียญคือ 5 เซ็นต์มูลค่าเหรียญ 1 ไตรมาสคือ 25 เซ็นต์มูลค่า $ 1 คือ 100 เซ็นต์มูลค่า $ 3.45 คือ 345 เซนต์ให้จำนวนของนิเกลเป็น n และจำนวนไตรมาสเป็น q ดังนั้น n + q = 25 (1 ) 5n + 25q = 345 (2) eqn การคูณ (1) คูณ 5 จากนั้นลบจาก eqn (2) เราได้ 5n + 25q = 345 (2) 5n + 5q = 125 (1) 20q = 220 หรือ q = 11; n = 25-11 = 14 เหรียญ 11 เหรียญและเหรียญนิกเกิล 14 เหรียญอยู่ในกระเป๋า [ตอบ] อ่านเพิ่มเติม »

T_ (30) = 75 ft T_ (90) = 195 ft สมมติว่าอัตรานั้นคงที่มันแค่หมายความว่าทุกๆ 10 วินาทีที่เธอเคลื่อนไหว 20 ฟุต "เริ่มต้นหัว" เพียงเลื่อนตำแหน่งเริ่มต้นไปข้างหน้า พีชคณิตเราแค่เพิ่มค่าคงที่กับสมการอัตราคงที่ Distance = Rate X Time, หรือ D = R xx T การเพิ่มใน "head start" ระยะทางของเธอในอนาคตจะเป็น: D = 15 + R xx T อัตราของเธอคือ (20 "ft") / (10 "วินาที" ) = 2 ("ft" / วินาที) D = 15 + 2 ("ft" / วินาที) xx T ที่ T = 30 D = 15 + 2 ("ft" / วินาที) xx 30 = 75 ที่ T = 90 D = 15 + 2 ("ft" / วินาที) xx 90 = 195 อ่านเพิ่มเติม »

ความไม่เท่าเทียมที่ต้องแก้ไขคือ: (3t + 270) / 6> = 90 เธอต้องเฉลี่ยอย่างน้อย 90 ในการทดสอบที่เหลืออีกสามครั้งเพื่อให้มีค่าเฉลี่ยโดยรวม 90 อย่างน้อยสำหรับการทดสอบทั้งหมด 6 ครั้ง เพื่อให้ได้ค่าเฉลี่ยคุณต้องรวมคะแนนการทดสอบทั้งหมดก่อนแล้วหารด้วยจำนวนการทดสอบ จนถึงตอนนี้มารีได้ทำการทดสอบ 3 ครั้งและเรารู้ว่าจำนวนการทดสอบทั้งหมดจะเท่ากับ 6 ดังนั้นเราจะหารด้วย 6 เพื่อให้ได้คะแนนเฉลี่ยทั้งหมด ถ้าเราปล่อยให้การทดสอบที่เหลืออยู่สามครั้งในแต่ละครั้งจะถูกแทนด้วย t ดังนั้นผลรวมของการทดสอบทั้งหมดจะเป็น: 95 + 86 + 89 + t + t + t หรือ 270 + 3t ค่าเฉลี่ยของการทดสอบทั้ง 6 นี้สามารถแทนได้ด้วย : (3t + 270) / 6 และสำหรับค่าเฉลี่ยของเธออย่าง อ่านเพิ่มเติม »

$ 704 color (blue) ("Preamble") ก่อนอื่นคำถามนี้ไม่ได้แสดงถึงชีวิตจริง กระดาษผนังส่วนใหญ่มีลวดลาย ดังนั้นคุณมีปัญหาของการจับคู่รูปแบบ ผลที่ตามมาก็คือว่ามีการสูญเสีย ด้านบนของบทบาทใดบทบาทหนึ่งมีความยาวคงที่ดังนั้นสิ่งนี้จะส่งผลให้เกิดการสูญเสียอีกครั้ง บทบาทสุดท้ายอาจหรือไม่อาจมีการสูญเสียมาก ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ (สีฟ้า) ("ตอบคำถาม") สันนิษฐานว่า - ไม่มีการจับคู่รูปแบบและ ไม่มีการสูญเปล่า วิธี: กำหนดพื้นที่ทั้งหมดคูณพื้นที่นั้นด้วยราคาต่อหน่วยพื้นที่สี (สีน้ำตาล) ("กำหนดพื้นที่ทั้งหมด") 2 กำแพงที่ 10 ฟุตคูณ 8 ฟุต -> 2 (10xx8) ft ^ 2 = 160ft ^ 2 2 ผนังที่ 12 ฟุต 8 ฟุต -> 2 ( อ่านเพิ่มเติม »

1/3, "" 5/8, "" 2/3, "" 7/10 ของเศษส่วนสี่ตัวเหลือเพียง 1/3 เท่านั้นที่น้อยกว่า 1/2 ดังนั้นจึงมีค่าน้อยที่สุด เขียนอีก 3 เศษส่วนเป็นเศษส่วนเท่ากันโดยใช้ตัวหารร่วมที่ 120 แล้วเปรียบเทียบกัน 7/10 xx 12/12 = 84/120 2/3 xx 40/40 = 80/120 5/8 xx15 / 15 = 75/120 ดังนั้นตามลำดับ: 1/3, "" 5/8, "" 2 / 3, "" 7/10 ถ้าคุณแปลงเป็นเปอร์เซ็นต์: 1/3 = 33 1/3% 5/8 = 62.5% 2/3 = 66 2/3% 7/10 = 70% อ่านเพิ่มเติม »

ปลาแซลมอนมีค่าใช้จ่าย $ 14.95 ต่อปอนด์ เขียนสมการสำหรับต้นทุนทั้งหมด ราคาต่อปอนด์คูณด้วยจำนวนปอนด์จะทำให้คุณมีต้นทุนรวม "ต้นทุนทั้งหมด" = "ราคาต่อปอนด์" * "จำนวนปอนด์" จัดเรียงพีชคณิตนี้ใหม่เพื่อแก้ปัญหาสำหรับ "ราคาต่อปอนด์" เมื่อต้องการทำเช่นนี้ให้หารทั้งสองข้างของสมการด้วย "จำนวนปอนด์" เพื่อรับ "ราคาต่อปอนด์" ด้วยตัวเอง "ราคารวม" / สี (สีแดง) ("จำนวนปอนด์") = "ราคาต่อปอนด์" * ยกเลิก ("จำนวนปอนด์") / ยกเลิก (สี (สีแดง) ("จำนวนปอนด์")) สิ่งนี้ทำให้เรามี รูปแบบใหม่ของสมการ "ราคาต่อปอนด์" = "ค่าใช้จ่าย อ่านเพิ่มเติม »

0.1 แกลลอนของสีถ้าเราต้องการทราบว่าสีเหลืออยู่ในกระป๋องและ a สามารถเริ่มต้นด้วย 1 แกลลอนและเรารู้ว่ามีการใช้ 0.5 แกลลอน (หรือที่เรียกว่าถูกนำออกจากกระป๋อง) และ 0.4 แกลลอนเพิ่มเติมคือ ใช้เราสามารถตั้งค่าสมการ 1 แกลลอน - 0.5 แกลลอน - 0.4 แกลลอน = X แกลลอน 1 แกลลอน -0.9 แกลลอน = Xgallons 0.1 แกลลอน = แกลลอน X ดังนั้น 0.1 แกลลอนที่เหลืออยู่ในกระป๋อง อ่านเพิ่มเติม »

คำสั่งนี้จะเป็นจริงสำหรับทุกคนยกเว้นจำนวนเฉพาะสองตัวคือตัวส่วนที่ 2 และ 5 จะให้ทศนิยม ในการสร้างทศนิยมที่เป็นตัวหารส่วนของเศษส่วนต้องเป็นกำลัง 10 จำนวนเฉพาะคือ 2, "" 3, "" 5, "" 7, "" 11, "13," 13, "17," "19," "23," "29," "31 ..... มีเพียง 2 และ 5 เท่านั้นที่เป็นตัวประกอบกำลัง 10 1/2 = 5/10 = 0.5 1/5 = 2/10 = 0.2 อีกอัน จำนวนเฉพาะทั้งหมดให้ทศนิยมที่เกิดขึ้นประจำ: 1/3 = 0.bar3 1/7 = 0.bar (142857) 1/11 = 0.bar (09) อ่านเพิ่มเติม »

มาริโออายุ 18 ปีและพีทอายุ 3 ปี ให้พีทอายุ x ปีและมาริโอมีอายุ x + 15 ปี หลังจาก 2 ปี Pete จะเป็น x + 2 และ Mario จะเป็น (x + 15 + 2) = x + 17 Mario ที่ได้รับจะมีอายุ 4 เท่าเท่ากับ Pete x + 17 = 4 (x + 2) x + 17 = 4x +8 -3x = 8-17 3x = 9 x = 3 ดังนั้นอายุปัจจุบันของ Pete คือ 3 ปีและอายุปัจจุบันของ Mario คือ x + 15 เช่นอายุ 18 ปี อ่านเพิ่มเติม »

6 ไมล์ d = t xx 2 mph d = (t -1) xx 3 mph ระยะห่างจากเดอะมอลล์จะเท่ากันดังนั้นจึงสามารถตั้งค่าสองครั้งให้เท่ากัน t xx 2mph = t-1 xx 3 mph 2t = 3t - 3 ลบ 2t และเพิ่ม 3 ทั้งสองข้างของสมการ 2t- 2t +3 = 3t -2t - 3 + 3 สิ่งนี้ให้: 3 = t เวลาเท่ากับสามชั่วโมง . d = 3 h xx 2mph d = 6 miles อ่านเพิ่มเติม »

ราคาเดิมของไมโครเวฟคือ $ 350 ให้ Marissa ซื้อไมโครเวฟด้วยราคา $ x เป็นราคาลด ภาษีคือ x * 7/100 = $ 14.70: x = (100 * 14.70) / 7 = $ 210 สมมติว่าราคาเดิมคือ $ y: y * (100-40) / 100 = 210 หรือ y = (210 * 100) / 60 = $ 350 ราคาเดิมของไมโครเวฟคือ $ 350 [Ans] อ่านเพิ่มเติม »

มี 40 เธอตอบ 34 คำถามถูกต้องได้ 85% ถูกต้อง โดยใช้การแบ่งเราสามารถคำนวณจำนวนคำถามทั้งหมด 34 / 0.85 = 40 อ่านเพิ่มเติม »

หมายเลข PIN คือ 31 และ 37 หาก n มีจำนวนน้อยกว่าจำนวนเฉพาะผลิตภัณฑ์ของจำนวนเฉพาะนั้นมีคำสั่งของ n ^ 2 ซึ่งจริงแล้วสูงกว่าเล็กน้อย ตอนนี้จำนวนเต็มที่มีช่องระหว่าง 1,000 ถึง 1500 คือ {32,33,34,35,36,37,38} ซึ่งมีเพียง 37 เท่านั้น หมายเลขเฉพาะก่อน 37 คือ 31 และหลังจากนั้นคือ 41 เช่น 37xx41 = 1517 และ 31xx37 = 1147 หมายเลข PIN คือ 31 และ 37 อ่านเพิ่มเติม »

Ycan ทำภารกิจให้เสร็จใน 72/7 "วัน" กุญแจสำคัญที่นี่คือการหาว่า Mark และ Andrei สามารถทำงานได้มากแค่ไหนต่อวัน วิธีนี้คุณสามารถคิดได้ว่าพวกเขาสามารถทำงานร่วมกันได้มากแค่ไหนในหนึ่งวัน ดังนั้นมาร์คสามารถทำภารกิจให้เสร็จภายใน 24 วันซึ่งหมายความว่าเขาสามารถทำงานให้เสร็จ 1/24 ในหนึ่งวัน อันเดอร์เบรซ (1/24 + 1/24 + ... + 1/24) _ (สี (สีน้ำเงิน) ("24 วัน")) = 24/24 = 1 ในทำนองเดียวกันอังเดรสามารถทำงานเดียวกันให้เสร็จภายใน 18 วันซึ่ง หมายความว่าเขาสามารถทำภารกิจให้เสร็จสมบูรณ์ 1/18 ในหนึ่งวัน Underbrace (1/18 + 1/18 + ... + 1/18) _ (สี (สีน้ำเงิน) ("18 วัน")) = 18/18 = 1 ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะสามารถจบ อ่านเพิ่มเติม »

4 Marker Marker และ 2 Crayon Pack นี่เป็นสิ่งสำคัญเพียงปัญหาเศษส่วนที่แยกจากกันสองตัวที่รวมกัน ที่หนึ่งคือจำนวนนักเรียนต่อเครื่องหมายในแพ็คและที่สองคือจำนวนนักเรียนต่อดินสอสีในแพ็ค คำตอบสุดท้ายที่เราต้องการคือในรูปแบบของ MarkerPacks และ CrayonPacks ถ้าเราดูอัตราส่วนเรามี: Mpack = 32 คน * (1 เครื่องหมาย) / (นักศึกษา) * (MPack) / (8 เครื่องหมาย) = 4 ชุดเครื่องหมาย Cpack = นักเรียน 32 คน * (1 ดินสอสี) / (นักเรียน) * (CPack) / (16 Crayons) = 2 Crayon pack อ่านเพิ่มเติม »

ดูขั้นตอนการแก้ปัญหาด้านล่าง: อันดับแรกให้โทร: - จำนวนไตรมาสที่มาร์คมี - จำนวนนิคมาร์คที่มีจากข้อมูลในปัญหาเราสามารถเขียนสมการสองสมการ: สมการที่ 1: q = 3n สมการที่ 2: $ 0.25q + $ 0.05n = $ 1.60 ขั้นตอนที่ 1) เนื่องจากสมการ 1 ได้รับการแก้ไขสำหรับ q เราสามารถแทนที่ (3n) สำหรับ q ในสมการ 2 และแก้ปัญหาสำหรับ n: $ 0.25q + $ 0.05n = $ 1.60 กลายเป็น: $ 0.25 (3n) + $ 0.05n = $ 1.60 $ 0.75 n + $ 0.05n = $ 1.60 ($ 0.75 + $ 0.05) n = $ 1.60 $ 0.80n = $ 1.60 ($ 0.80n) / (สี (สีแดง) ($) สี (สีแดง) (0.80)) = ($ 1.60) / (สี (สีแดง) $) สี (สีแดง) (0.80)) (สี (สีแดง) (ยกเลิก (สี (สีดำ) ($ 0.80))) n) / ยกเลิก (สี (สีแดง) ($) สี (สีแดง) (0.8 อ่านเพิ่มเติม »

มาร์คอายุ 14 ปีและน้องสาวของเขาอายุ 3 ปี มาเรียกอายุของมาร์คตอนนี้กันเถอะเรียกอายุของน้องสาวตอนนี้เรารู้แล้วว่ามาร์คมีอายุมากกว่าพี่สาวของเขา 11 ปีหรือ: m = s + 11 ใน 8 ปีดังนั้น m + 8 และ s + 8 ปี ดังนั้นเราสามารถเขียน: m + 8 = 2 (s + 8) เรามีสมการแรกในรูปของ m แล้ว ดังนั้นเราสามารถแทนที่ s + 11 สำหรับ m ในสมการที่สองและแก้หา s: s + 11 + 8 = 2 (s + 8) s + 19 = 2s + 16 s - s + 19 - 16 = 2s - s + 16 - 16 0 + 3 = ss = 3 ตอนนี้เราสามารถแทนที่ 3 สำหรับ s ในสมการแรกและคำนวณ m: m = 3 + 11 m = 14 # อ่านเพิ่มเติม »

ลดลง 19% ในคอลเลกชันของเธอ 171 จาก 900 หมายถึง 171/900 ของคอลเลกชันของเธอ เป็นเปอร์เซ็นต์สี (ขาว) ("XXX") 171 / (9cancel (00)) xx1cancel (00)% สี (ขาว) ("XXX") = (ยกเลิก (171) ^ 19) / ยกเลิก (9)% สี (สีขาว) ( "XXX") = 19% อ่านเพิ่มเติม »

715 "เรากำลังค้นหา a, b, c, d, e" "a + b + c + d + e = 9. a, b, c, d, e เป็นจำนวนเต็มบวก" "นี่คือปัญหาดาวและแถบเรามี 9 ดาว (ผลรวม" "ของหลัก) และพวกเขาจะต้องแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม" "จำนวนชุดค่าผสมสำหรับที่คือ C (9 + 4,4) = C (13,4)," "กับ" C (n, k) = (n!) / ((nk)! k!) "ดังนั้น ที่นี่เรามี "C (13,4) = (13!) / ((9!) (4!)) = 715" ความเป็นไปได้ อ่านเพิ่มเติม »

7/9 เพิ่มเศษส่วนทั้งสองด้วยการแปลงเศษส่วนเป็นตัวส่วนร่วม 1/3 xx 3/3 = 3/9 ตอนนี้เศษส่วนทั้งสองมีส่วนเดียวกันที่สามารถเพิ่มได้ 3/9 + 4/9 = 7/9 เนื่องจากค่าของตัวส่วนเหมือนกันมันจะไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อมีการเพิ่มเศษส่วน 2 ห้าดอลล่าร์ดอลลาร์บวก 3 ห้าดอลล่าร์ดอลลาร์คือ 5 ห้าดอลล่าร์ดอลลาร์ การเพิ่มไม่ได้เปลี่ยนนิกาย อย่างไรก็ตามตัวเลขจะถูกเพิ่มเป็นตัวเศษหมายถึงการนับจำนวนดังนั้น 3 + 4 = 7 คำตอบคือ 7/9 อ่านเพิ่มเติม »

เธอเต้นเป็นเวลา 130 นาที ให้ x เป็นจำนวนนาทีที่เธอเต้น อันดับแรกเราต้องตั้งค่าสมการด้วยค่าที่ทราบและ x นาทีที่เธอเต้นแบบนี้: 30 + 1.80x = 264 ตอนนี้เราต้องทำให้ง่ายขึ้น: 1.80x = 234 (ทำให้ค่า x ทางซ้ายและตัวเลขทางขวาของสมการ ) x = 130 (หารด้วย 1.80 ทั้งสองข้างของสมการ) คำตอบสุดท้าย: เธอเต้นเป็นเวลา 130 นาที อ่านเพิ่มเติม »

P> = 5 4s + 10p <= 100 อย่าพยายามใส่ข้อมูลมากเกินไปในความไม่เท่าเทียมกันอันเดียว ให้จำนวนพืชเป็น p ให้จำนวนถุงดินเป็นอย่างน้อย 5 ต้น: "" p> = 5 จำนวนพืชคือ 5 หรือมากกว่า 5 เงินที่ใช้ไป: "" 4s + 10p <= 100 จำนวน เงินที่ใช้ในดินและพืชจะต้องมี 100 หรือน้อยกว่า 100 อ่านเพิ่มเติม »

6 ปีให้เงินเดือนของ Marshall เป็น "S_m ให้เงินเดือนของ Jim เป็น" "S_j ให้นับเป็นปี S nm = $ 36000 + 4000n S_j = $ 51000 + 1,500n ชุด S_m = S_j เพื่อความสะดวกช่วยให้วางสัญลักษณ์ $ = 36000 + 4000n" " = "" 51000 + 1500n ลบ 1500n และ 36000 จากทั้งสองข้าง 4000n-1500n = 51000-36000 2500n = 15000 หารทั้งสองข้างด้วย 2500 n = 15000/2500 = 150/25 = 6 อ่านเพิ่มเติม »